คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติเตรียมออกเสียงผ่านมติว่าด้วยการเรียกร้องให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซ่าในวันอังคาร ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน เดินทางเยือนอิสราเอลเพื่อหารือเรื่องการปกป้องชีวิตพลเรือน และแผนขั้นต่อไปของอิสราเอลในการกำจัดกลุ่มฮามาส
รัฐมนตรีออสติน พบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีกลาโหม โยแอฟ กัลแลนต์ ของอิสราเอล และได้เน้นย้ำ "ความร่วมมือที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิสราเอล" และการปกป้องประชาชนในกาซ่า รวมทั้งยินยอมให้ความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าได้
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้ พร้อมยืนยันถึงสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และเสริมว่า "สหรัฐฯ จะยังคงกระตุ้นให้มีการปกป้องพลเรือนในช่วงสงคราม และเพิ่มการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซ่า"
"เรายังคำนึงถึงการลดระดับความเข้มข้นของปฏิบัติการและใช้แนวทางที่มีการเจาะจงเป้าหมายมากขึ้น" รัฐมนตรีออสตินกล่าว พร้อมยังขอให้เกิด "แนวทางสองรัฐ" ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ภายหลังสงครามครั้งนี้ โดยเน้นย้ำถึงความไร้เสถียรภาพและความไม่มั่นคงภายใต้การปกครองของฮามาส
ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหม โยแอฟ กัลแลนต์ กล่าวว่า อิสราเอลจะค่อย ๆ ปรับสู่ขั้นต่อไปของปฏิบัติการในกาซ่า ซึ่งจะอนุญาตให้ประชาชนท้องถิ่นบางส่วนกลับสู่ภาคเหนือของกาซ่าได้
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวหลายแห่งเปิดเผยร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้มีการยุติการเป็นปฏิปักษ์ของทั้งสองฝ่ายและการหยุดยิงในทันทีเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้
เมื่อต้นเดือนนี้ มติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่ขอให้หยุดยิงชั่วคราว ประสบความล้มเหลวเนื่องจากสหรัฐฯ ใช้อำนาจวีโต้มติดังกล่าวโดยเหตุผลว่าจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มฮามาส
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิสราเอลยอมเปิดจุดผ่านแดนอีกแห่งหนึ่งเพื่อให้รถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าไปถึงกาซ่า แต่ทางสำนักงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นระบุว่า มีรถบรรทุกความช่วยเหลือเดินทางเข้าไปได้เพียง 121 คันเมื่อวันเสาร์ จากที่เคยมีรถบรรทุกขนความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าถึงวันละ 500 คันในช่วงก่อนเกิดสงคราม
Your browser doesn’t support HTML5
สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) กล่าวว่า ขณะนี้สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสได้ทำให้ประชาชนราว 85% ของกาซ่าต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน โดยที่จำนวนมากต้องอาศัยอยู่ตามสถานที่พักพิงชั่วคราวที่ยูเอ็นจัดหาให้ทางภาคใต้ของกาซ่า ซึ่งเกินศักยภาพจะรองรับผู้ลี้ภัยได้อีกต่อไป
UNRWA ระบุด้วยว่า ตั้งแต่เกิดการต่อสู้เมื่อต้นเดือนตุลาคม เจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ถูกสังหารไปแล้ว 135 คน และสถานที่พักพิงถูกทำลายไป 115 แห่ง
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของกาซ่าเปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซ่าได้ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 18,700 คน
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี และรอยเตอร์