Your browser doesn’t support HTML5
หอนาฬิกาบิ๊กเบนในกรุงลอนดอนอันมีชื่อเสียงโด่งดังจะเผยโฉมทันเวลาปฏิบัติภารกิจสำคัญที่สุดประจำปี ซึ่งนั่นก็คือการเคาะเวลาเริ่มต้นวันปีใหม่ให้แก่ผู้คนหลายพันคนบนถนนหลายสายในกรุงลอนดอน และสำหรับคนอีกหลายล้านคนที่ชมผ่านทางจอโทรทัศน์
หอนาฬิกาดังกล่าวของรัฐสภาอังกฤษถูกปิดไว้เพื่อซ่อมแซมมาเป็นเวลานานกว่าสามปี โดยมีคนงานหลายร้อยคนที่ร่วมกันซ่อมแซมบูรณะโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1859
Nick Sturge ผู้จัดการโครงการพิเศษของบริษัท Sir Robert McAlpine กล่าวว่า การถอดนั่งร้านเป็นขั้นตอนสำคัญในโครงการที่มีมูลค่า 107 ล้านดอลลาร์นี้
เขากล่าวต่อไปว่า ภายในวันปีใหม่ประชาชนจะได้เห็นหอนาฬิกาของพวกเขาอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง โดยจะเห็นความแตกต่างมากมาย รวมทั้งมองเห็นหลังคาได้อย่างสมบูรณ์พร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาทั้งสี่ด้านด้วย
ทั้งนี้ บิ๊กเบนเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนและรัฐสภาอังกฤษที่รู้จักกันดีในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดอีกด้วย
Sturge กล่าวอีกว่า งานซ่อมแซมหอนาฬิกาแห่งนี้รวมไปถึงการเปลี่ยนชิ้นส่วนของหน้าปัดนาฬิกาด้วยกระจกทำมือ เข็มนาฬิกา ตัวเลข และรายละเอียดอื่น ๆ ถูกทาสีใหม่เป็นสีน้ำเงินสดใสแทนที่จะเป็นสีดำแบบที่ชาวลอนดอนคุ้นเคยมาช้านาน
และว่า ภาพวาดในช่วงแรก ๆ ของบิ๊กเบนแสดงให้เห็นสีที่ได้รับการยืนยันจากการศึกษาสีว่าเป็นสีน้ำเงินปรัสเซียน และเมื่อยืนมองอยู่บนถนนทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปในอดีต
สัญลักษณ์ประจำชาติทั้งสี่ส่วนของประเทศอังกฤษ ซึ่งได้แก่ ต้นธิสเซิล ต้นแชมร็อก ต้นลีค และดอกกุหลาบ ถูกทาสีใหม่ด้วยสีที่ได้รับการออกแบบเป็นครั้งแรก โดยอาคารนี้ถูกเรียกว่าหอนาฬิกา "คล็อก ทาวเวอร์" จนถึงปี ค.ศ. 2012 ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น "เอลิซาเบธ ทาวเวอร์" เพื่อถวายพระเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ
Great Bell หรือ มหาระฆัง หรือ บิ๊กเบน จะเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการเคาะระฆัง 12 ครั้ง โดยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในวันที่ 1 มกราคม
Alex Jeffrey หนึ่งในสามช่างทำนาฬิกาที่พระราชวังเวสต์มินสเตอร์กล่าวว่า นาฬิกาได้ถูกส่งไปที่เมืองคัมเบรีย ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ เพื่อแยกชิ้นส่วนและประกอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นงานใหญ่ เพราะเข็มของนาฬิกาข้างหนึ่งหนักประมาณ 305 กิโลกรัม และเข็มนาทีมีความยาวประมาณ 4.3 เมตร
ปัจจุบัน หน้าปัดด้านหนึ่งของนาฬิกาแสดงเวลาด้วยระบบที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าหลังจากที่รื้อถอนนั่งร้านออกไปแล้ว แต่เริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลินี้ หน้าปัดทั้งสี่ด้านของนาฬิกาจะขับเคลื่อนด้วยแรงโน้มถ่วงตามที่ออกแบบไว้ในครั้งแรก ซึ่ง Jeffrey กล่าวว่า นาฬิกาขนาดใหญ่นี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและมีความแม่นยำมาก
- ที่มา: Reuters