Your browser doesn’t support HTML5
ออสเตรเลียทำการสำรวจสำมะโนประชากรทุก 5 ปี และการสำรวจล่าสุดพบว่า ออสเตรเลียในปัจจุบันกลายเป็นชาติที่มีประชากรที่เป็นคนผิวขาวน้อยลง และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกจากนี้ จำนวนคนที่อาศัยในเมืองหลวงและนครต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
David Kalisch เจ้าหน้าที่เเห่งสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งรับผิดชอบการสำรวจสำมะโนประชากร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววีโอเอที่นครซิดนีย์ถึงเรื่องนี้ว่า ผลการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเกือบครึ่งหนึ่งของชาวออสเตรเลียมีทั้งที่เกิดในต่างประเทศ หรือมีผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งที่เกิดในต่างประเทศ
เขากล่าวว่า ออสเตรเลียมีประชากรเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเมืองหลวงของรัฐต่างๆ ซึ่งมีคนออสเตรเลียมากกว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมดอาศัยอยู่
และเป็นครั้งเเรกที่มีผู้อพยพย้ายถิ่นจากประเทศในเอเชียเข้าไปอยู่ในออสเตรเลียมากขึ้น ส่วนมากมาจากอินเดียเเละจีน เเทนที่จะเป็นชาวยุโรปอย่างในอดีต
ผลการสำรวจสำมะโนประชากรปีล่าสุดปี ค.ศ. 2016 พบว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของชาวออสเตรเลียที่เกิดในต่างประเทศ เกิดในชาติเอเชีย เมื่อเทียบกับตัวเลขเดิมที่ 25 เปอร์เซ็นต์ในผลการสำรวจในปี ค.ศ. 2001
การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่เกิดปัญหาในระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ทำงานผิดพลาด จนทำให้หน้าเว็บไซท์ของสำนักงานสถิติเเห่งชาติต้องปิดไปนานสองวัน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียยืนยันว่า ข้อมูลผลการสำรวจสำมะโนประชากรนี้น่าเชื่อถือและถูกต้อง เเม้จะประสบกับปัญหาความผิดผลาดของระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
ด้านคุณรีเบกกา ฮันลี่ย์ นักวิจัยด้านสังคม กล่าวว่าออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐาน ออสเตรเลียเป็นชาติของคนอพยพย้ายถิ่นมาเเต่ไหนเเต่ไร แต่การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับพื้นเพของผู้อพยพจากที่ส่วนใหญ่เคยเป็นคนขาวจากยุโรป กลายเป็นคนจากเอเชีย
คุณลิซ อัลเลน นักประชากรศาสตร์แห่ง Australian National University กล่าวว่า ตั้งเเต่ปี ค.ศ. 2011 หรือ 6 ปีที่แล้ว ผู้อพยพย้ายถิ่นรายใหม่จำนวน 1 ล้าน 3 เเสนคนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในออสเตรเลีย โดย 163,000 คนมาจากอินเดีย ขณะที่มากกว่า 190,000 คนมาจากประเทศจีน
และในออสเตรเลีย ภาษาจีนกลางยังคงเป็นภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดเป็นอันดับสองต่อจากภาษาอังกฤษ
คุณอัลเลน กล่าวว่า มีคนพูดภาษาจีนกลางเเละภาษาอาราบิกมากขึ้น ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางลักษณะประชากรของประเทศอย่างชัดเจน โดยเปลี่ยนไปเป็นคนที่มาจากอินเดียและจีนมากขึ้นกว่าคนที่มาจากยุโรป
เหตุการณ์สังหารหมู่ที่จตุรัสเทียนอันเหมินในจีนในปี ค.ศ.1989 ทำให้รัฐบาลอสเตรเลียออกวีซ่าถาวรเเก่นักศึกษาชาวจีน 42,000 คน ซึ่งได้กลายเป็นการอพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่ที่ของชาวจีนไปออสเตรเลียนับตั้งเเต่ยุคล่าทองคำในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1800
พ่อเเม่ของเจสัน จู ก็อยู่ในกลุ่มผู้อพยพชาวจีนรุ่นใหม่หลายพันคนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย จูกล่าวว่าคุณภาพชีวิตที่ออสเตรเลียดีกว่าที่จีน มีความสงบสุขกว่า และน่าจะสบายใจกว่า เพราะจีนมีการเเข่งขันกันสูง เขากล่าวว่าพ่อเเม่ของตนอพยพมาออสเตรเลียในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1900 ก่อนหน้าที่เขาจะเกิด
ด้านราเมช ชาร์มา ย้ายไปอยู่ออสเตรเลียจากอินเดียในปี ค.ศ. 1995 และเปิดร้านอาหารในนครซิดนีย์ เขาบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ทุกคนที่เขาได้พบเจอในอินเดียล้วนเเต่บอกว่าอยากมาอาศัยในประเทศนี้ ชีวิตในอินเดียลำบากทำให้หลายคนหวังว่าจะได้อพยพมาอยู่ออสเตรเลียเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เขาบอกว่าตนเองโชดคีที่ได้มาอยู่ในออสเตรเลีย
(รายงานโดย Phil Mercer / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)