นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลจะเข้ารับผิดชอบงานด้านความมั่นคงทั้งหมดในฉนวนกาซ่าอย่างไม่มีกำหนด โดยคำประกาศนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่า รัฐบาลอิสราเอลวางแผนที่จะควบคุมพื้นที่ซึ่งเป็นเขตปกครองของชาวปาเลสไตน์ให้ได้ หลังการสู้รบดำเนินมาหนึ่งเดือนและคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคนรวม ทั้งสร้างความเสียหายจนพื้นที่ดังกล่าวราบเป็นหน้ากลองแล้ว
ในการสัมภาษณ์กับรายการข่าวเอบีซีนิวส์ (ABC News) ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้นำอิสราเอลแสดงจุดยืนยอมรับ “การพักรบเล็กน้อย” ในการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อเปิดทางให้มีการส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังกาซ่าหรือเพื่อการปล่อยตัวของตัวประกันกว่า 240 คนที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูปฏิเสธข้อเสนอการหยุดยิง หากไม่มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด
ขณะที่ อิสราเอลประกาศคำมั่นว่าจะกำจัดกลุ่มฮามาสออกไปให้ได้ ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักก็ยังไม่ได้เปิดเผยว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู บอกกับเอบีซีนิวส์ ว่า ฉนวนกาซ่าควรถูกปกครองโดย “ผู้ที่ไม่ต้องการที่จะดำเนินเส้นทางเดินของกลุ่มฮามาสต่อไป” โดยไม่ได้อธิบายรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม
ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอต่อระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำอิสราเอลให้มีการพักรบเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรม ก็ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ออกมา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีใบเดนได้เน้นย้ำการให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่ออิสราเอลในการสู้รบกับกลุ่มฮามาส แต่ก็ชี้ว่า สิ่งสำคัญคือ การปกป้องพลเรือนชาวปาเลสไตน์และการลดระดับภัยอันตรายต่อพลเรือนระหว่างการปฎิบัติการทางทหารต่างๆด้วย
หน่วยงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า รถบรรทุกจำนวน 93 คันได้นำส่งอาหาร ยา เสบียงด้านสาธารณสุขและน้ำดื่มข้ามพรมแดนอียิปต์ไปยังกาซ่าเมื่อวันจันทร์ พร้อมเปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการเริ่มนำส่งสิ่งของต่าง ๆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม มีรถบรรทุกทั้งหมด 593 คันเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เขตปกครองดังกล่าวแล้ว
และเมื่อวันจันทร์ หน่วยงานต่าง ๆ ของยูเอ็นและกลุ่มความช่วยเหลือนานาชาติต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง องค์การอนามัยโลก ยูนิเซฟ โครงการอาหารโลก และองค์กร CARE International รวมทั้ง Save the Children และ Mercy Corps ออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมโดยทันที
แถลงการณ์ดังกล่าวซึ่งไม่ได้มีออกมาบ่อยนักมีเนื้อหาว่า “เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่โลกได้เฝ้าดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอิสราเอลและเขตปกครองที่ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ ด้วยความช็อคและความรู้สึกกลัวที่เห็นตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับผลกระทบมากมายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” และว่า “ผู้คนนับหมื่นต้องกลายมาเป็นผู้ไร้ถิ่นฐาน ... นี่เป็นเรื่องที่สะเทือนขวัญมาก”
สื่อเอพีระบุว่า สงครามในครั้งนี้ส่งผลให้พื้นที่ในกาซ่าเสียหายเหลือแต่ซาก และราว 70% ของประชาชนประมาณ 2.3 ล้านคนต้องหนีตายออกจากบ้านเรือนของตน
อิสราเอลเข้ายึดฉนวนกาซ่า เขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งเป็นสามพื้นที่ที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการให้เป็นที่ตั้งของรัฐของตนตั้งแต่เมื่อเกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอลเมื่อปี 1967
ต่อมา อิสราเอลผนวกเยรูซาเลมตะวันออกเข้ากับตน แม้ประชาคมโลกจะไม่ยอมรับ พร้อมเดินหน้าควบคุมเขตเวสต์แบงก์มาโดยตลอด ก่อนจะถอนกำลังทหารและผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวกว่า 8,000 คนออกจากกาซ่าเมื่อปี 2005 แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งอำนาจการควบคุมน่านฟ้า ชายฝั่ง ระบบการจดทะเบียนประชากรและเขตข้ามแดนเกือบทั้งหมดของพื้นที่ดังกล่าว
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี