อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งเป้าน็อคคู่แข่งที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว คือ นิกกี เฮลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาธ์แคโรไลนา ออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งขึ้นต้นพร้อมกัน 15 รัฐในวันอังคาร หรือ ซูเปอร์ทิวส์เดย์ (Super Tuesday)
ทรัมป์ ซึ่งได้รับชัยชนะในเกือบทุกสนามของพรรครีพับลิกันมาแล้วก่อนหน้านี้ กำลังอยู่บนเส้นทางของการคว้าชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จและเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อแข่งขันกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงปลายปีนี้
การเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันในวันอังคารที่ 5 มีนาคม ใน 15 รัฐ มีเดิมพันคือจำนวนผู้แทนมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด คิดเป็นกว่า 70% ของจำนวนผู้แทนที่ผู้ลงสมัครต้องการเพื่อให้ได้เป็นตัวแทนของพรรค
Your browser doesn’t support HTML5
คูหาเลือกตั้งแรกที่จะเริ่มปิดในวันอังคารนี้ คือรัฐเวอร์มอนต์และรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งจะปิดในเวลา 19:00 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน และต่อเนื่องไปจนถึงรัฐอะแลสกาทางภาคตะวันตก ที่จะปิดในเวลาเที่ยงคืนตามเวลากรุงวอชิงตัน
ในฝั่งพรรคเดโมแครต ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับคาดหมายว่าจะชนะอย่างง่ายดาย แม้ว่าจะมีผู้ประท้วงบางส่วนในรัฐมินนิโซตาที่ออกมาเดินขบวนต่อต้านนโยบายเกี่ยวกับอิสราเอลของประธานาธิบดีผู้อยู่ในตำแหน่งผู้นี้
ส่วนทางฝั่งพรรครีพับลิกัน นิกกี เฮลีย์ เผชิญคำถามที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เธอจะยื้อการแข่งขันกับทรัมป์ไปอีกนานแค่ไหน หลังจากที่เฮลีย์เพิ่งพ่ายแพ้ในรัฐบ้านเกิดของเธอเอง คือรัฐเซาธ์แคโรไลนา เมื่อ 10 วันที่แล้ว
Your browser doesn’t support HTML5
ผลการสำรวจความเห็นประชาชนที่จัดทำโดยเว็บไซต์ 538 ชี้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนำเฮลีย์ในทุกรัฐที่เลือกตั้งในวันอังคาร แม้เฮลีย์ยังมีความหวังที่จะได้รับชัยชนะในรัฐเวอร์จิเนีย แมสซาชูเสตส์ และเวอร์มอนต์ ที่ซึ่งประชาชนมีรายได้สูงและมีการศึกษาสูง
ทรัมป์ กล่าวกับสถานีข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่า ขณะนี้ตนมุ่งเป้าไปที่ไบเดนแล้ว และประกาศว่า "เราจะชนะทุกรัฐในค่ำคืนนี้"
อย่างไรก็ตาม การท้าทายจากเฮลีย์ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติในสมัยทรัมป์ ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนบางอย่างของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เช่นการที่เธอได้รับชัยชนะสูงถึง 40% ในบางรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีผู้สังกัดพรรครีพับลิกันแนวทางสายกลางบางส่วน รวมทั้งผู้ที่ไม่เจาะจงว่าสังกัดพรรคใด ที่ยังคงไม่อยากเห็นทรัมป์ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง
ทั้งนี้ ทรัมป์มีกำหนดขึ้นศาลอีกหลายครั้งภายในปีนี้ จากคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว รวมทั้งคดีละเมิดการเก็บเอกสารของรัฐบาลหลังจากที่เขาพ้นจากตำแหน่งไปแล้วด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์