ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เตือนว่า กองทัพรัสเซียอาจใช้ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่กว่าเดิมในภาคตะวันออกของยูเครน พร้อมยืนยันว่ากองกำลังยูเครนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่และจะตอบโต้การคุกคามรอบใหม่ของรัสเซีย
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวปราศรัยทางวิดีโอในช่วงค่ำวันอาทิตย์ ระบุว่า ช่วงเวลาจากนี้จะมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้น
ผู้นำยูเครนยังกล่าวผ่านทางรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า ชะตากรรมของยูเครนนั้นขึ้นอยู่กับการจัดส่งอาวุธของสหรัฐฯ มาให้กับยูเครนเพื่อใช้รับมือกองทัพรัสเซีย และว่า ตนได้ส่งรายชื่ออาวุธที่ยูเครนต้องการไปให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว
"ประธานาธิบดีไบเดนสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ในฐานะผู้นำที่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนยูเครนซึ่งได้รับชัยชนะในสงคราม และธำรงไว้ซึ่งสิทธิในการมีประเทศของตัวเอง" ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษรายงานในวันจันทร์ว่า กองทัพรัสเซียยังคงระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่เขตปกครองตนเองดอแนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่กองทัพยูเครนก็ยิงตอบโต้จนสร้างความเสียหายต่อรถถัง ยานพาหนะ และอาวุธต่างๆ ของรัสเซียเป็นจำนวนมาก
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษยังแสดงความกังวลด้วยว่า รัสเซียได้ใช้ระเบิดและขีปนาวุธที่ไม่มีระบบนำวิถี ทำให้เกิดการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตประชาชนในยูเครน
จนถึงขณะนี้ สหประชาชาติรายงานว่ามีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจากสงครามในยูเครนแล้วประมาณ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่ามากกว่า 4.5 ล้านคนเดินทางลี้ภัยไปยังประเทศอื่น
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีออสเตรีย คาร์ล เนแฮมแมร์ พบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในวันจันทร์ ที่กรุงมอสโก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้นำประเทศในยุโรปพบหารือกับประธานาธิบดีปูติน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ในแถลงการณ์หลังการประชุม นายกฯ ออสเตรีย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย และยากยิ่ง โดยข้อความสำคัญที่ตนส่งไปยังผู้นำรัสเซีย คือสงครามในยูเครนจะต้องยุติลง "เพราะในที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายคือผู้พ่ายแพ้ในสงคราม"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์