พันธมิตรชาติตะวันตกเดินหน้าดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียในวันอังคาร หลังประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศยอมรับเขตปกครองทางภาคตะวันออกของยูเครนว่าเป็นรัฐอิสระและส่งกำลังทหารเข้าบริเวณดังกล่าว ด้วยข้ออ้างว่าเป็น “กองกำลังสันติภาพ”
นายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี สั่งระงับโครงการท่อส่งก๊าซ นอร์ด สตรีม 2 (Nord Stream 2) ที่วางผ่านทะเลบอลติกจากรัสเซียมาเยอรมนี โดยคำสั่งดังกล่าวจะส่งผลให้การนำส่งเชื้อเพลงมายังเยอรมนีหยุดชะงักไปชั่วคราว แต่จะมีผลทำให้มอสโกขาดรายได้พอควร
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ แจ้งต่อรัฐสภาว่า ตนได้สั่งดำเนินมาตรการลงโทษธนาคารรัสเซีย 5 แห่ง และผู้บริหาร “มีฐานะมั่งคั่ง” อีก 3 รายของรัสเซีย ด้วยการสั่งอายัดทรัพย์สินในอังกฤษและหยุดการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ กับองค์กรและบุคคลเหล่านี้แล้ว
โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าส่วนงานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวด้วยว่า “กองกำลังรัสเซียได้เข้ามาประจำในแผ่นดินยูเครน” ในแคว้นดอแนตสก์และลูฮันสก์แล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ “การรุกรานเต็มรูปแบบ”
ส่วนที่สหรัฐฯ ทำเนียบขาวได้เริ่มใช้คำว่า “การรุกราน” เมื่อกล่าวถึงการเคลื่อนกำลังพลของรัสเซียเข้าไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน หลังจากมีความลังเลในช่วงแรกว่าจะใช้คำนี้หรือไม่
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่า กองกำลังรัสเซียที่ข้ามพรมแดนไปยังยูเครนนั้นถือเป็นการรุกราน ซึ่งหมายถึง การที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการลงโทษขั้นรุนแรงต่อมอสโกทันที
และในวันอังคารเช่นกัน ประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนได้เรียกร้องให้นานาประเทศดำเนินมาตรการลงโทษต่อรัสเซีย โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มอสโกรุกเข้ามาอีกต่อไป
เจ้าหน้าที่การทูตชาติตะวันตกหลายรายรวมทั้งประชาชนในดอแนตสก์ ยืนยันกับ วีโอเอ ว่า รถถังรัสเซียจำนวนมากได้เคลื่อนตัวเข้ามายังพื้นที่ด้านตะวันออกของยูเครนในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า การปรากฏตัวของรถถังนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวอันมีนัยสำคัญของมอสโก หรือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเพียงการเคลื่อนกำลังของกลุ่มติดอาวุธที่รัสเซียหนุนหลังอยู่และมีปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
