ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หน่วยอารักขาปธน.สหรัฐฯ ยอมรับ ปฏิเสธคำร้องขอกำลังเพิ่มจากทรัมป์หลายครั้ง


แฟ้มภาพ - อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางการอารักขาของหน่วยงาน Secret Service ที่งานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เมื่อ 18 ก.ค. 2567
แฟ้มภาพ - อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางการอารักขาของหน่วยงาน Secret Service ที่งานประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เมื่อ 18 ก.ค. 2567

หน่วยอารักขาประธานาธิบดีและอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) ยอมรับว่า เคยปฏิเสธคำร้องขอจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ส่งกำลังสนับสนุนเพิ่มมาดูแลการดำเนินกิจกรรมสาธารณะของตนหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ระบุว่า ทีมงานของทรัมป์ไม่ได้ร้องขอให้มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในการหาเสียงที่เพนซิลเวเนีย สถานที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร

คำยอมรับจากหน่วย Secret Service ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของผู้นำประเทศทั้งคนปัจจุบันและในอดีต รวมทั้่ืงสมาชิกในครอบครัว และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล มีออกมาไม่กี่วันหลังมีการปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อรายงานข่าวที่ว่า ทางหน่วยงานไม่ยอมอนุมัติเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับทรัมป์ขณะปรากฏตัวในกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ

ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไมค์ จอห์นสัน เพิ่งออกมาให้ความเห็นสนับสนุนเสียงเรียกร้องของเจ้าหน้าที่พรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ ในการเรียกร้องให้ คิมเบอร์ลีย์ ชีเทิล ผู้อำนวยการหน่วย Secret Service ลาออกหรือถูกไล่ออก เพราะความผิดพลาดในการให้ดูแลทรัมป์จนเกิดความพยายามลอบสังหารที่ทำให้อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย

เอริค ทรัมป์ บุตรชายคนหนึ่งของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Sunday Morning Futures ของสถานีข่าวฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) ว่า ชีเทิล “ควรลาออกเพราะความอับอายขายขี้หน้านี้”

ในวันจันทร์ ชีเทิล ที่กล่าวแล้วว่า จะไม่ลาออก มีกำหนดเข้าตอบคำถามในการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ประธานาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไมค์ จอห์นสัน ระบุในการให้สัมภาษณ์ในรายการ State of the Union ทางสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ในวันอาทิตย์ว่า “นี่คือสิ่งที่ต้องไม่พลาดรับชมทางทีวี เธอ(ชีเทิล) ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำหน่วยงานที่มีความสำคัญมากขนาดนี้”

มีการยอมรับว่า การรักษาความปลอดภัยที่กิจกรรมหาเสียงของทรัปม์ที่รัฐเพนซิลเวเนียนั้นคือความล้มเหลว หลัง โธมัส แมทธิว ครูกส์ มือปืนวัย 20 ปี แอบปีนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารโกดังหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากเวทีหาเสียงของทรัมป์ราว 150 เมตร และลั่นไกถึง 8 นัดจากจุดที่โล่งสะดวกและไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ ได้อย่างง่ายดาย

รายงานงานข่าวอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่า หน่วย Secret Service ไม่ได้กำหนดพื้นที่ตั้งของอาคารโกดังที่ว่า เป็นเขตชั้นในของการรักษาความปลอดภัยที่ทางหน่วยดูแล และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เป็นฝ่ายตรวจตราความเรียบร้อยแทน แม้ว่าตำรวจท้องถิ่นจะแจ้งแล้วว่า ไม่มีกำลังมากพอมาประจำตรงจุดดังกล่าว

ตำรวจในพื้นที่กล่าวว่าเห็นครูกส์ทำตัวแปลก ๆ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็รอดสายตาตำรวจไปได้ ก่อนจะสามารถแอบปีนขึ้นในบนหลังคาโกดังที่ถือเป็นเขตชั้นนอกของการรักษาความปลอดภัยสำเร็จ

หลังเหตุการณ์ลอบสังหารผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีบางรายบอกว่า สภาคองเกรสเป็นฝ่ายที่ตัดงบของหน่วยจนไม่พอที่จะจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่ม ขณะที่ ความต้องการการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แอนโธนี กูเลียลมิ โฆษกของหน่วย Secret Service ที่ปฏิเสธมาตั้งแตหลังวันเกิดเหตุว่า เรื่องทีมงานของทรัมป์ได้ร้องขอการอารักขาเพิ่มเติมแต่ถูกปัดตกนั้นไม่เป็นความจริง จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงยอมรับว่า มีการร้องขออุปกรณ์คัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมหาเสียงและขอเจ้าหน้าที่เพิ่มไปประจำงานต่าง ๆ รวมทั้งทีมรักษาความปลอดภัยและทีมนักแม่นปืนมาก่อน แต่ทั้งหมดถูกปฏิเสธไปจริง

กูเลียลมิ ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า “หน่วย Secret Service มีภารกิจที่ซับซ้อน ท้าทายและครอบคลุมกว้างขวาง” และว่า “ทุกวัน เราปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่มีภัยคุกคามโดยมีพลวัตต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ที่เราปกป้องปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยตามกิจกรรม แผนการเดินทางและสภาพแวดล้อมยาก ๆ อื่น ๆ หลายอย่าง เราดำเนินยุทธศาสตร์ที่มีระดับการวางแผนหลายชั้นและครอบคลุมทุกจุดเพื่อสร้างสมดุลในด้านบุคลากร เทคโนโลยี และความต้องการปฏิบัติการพิเศษทั้งหลาย”

หนังสือพิมพ์ The Washington Post เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า คำขอให้มีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มนั้นถูกเจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วย Secret Service ปฏิเสธบางครั้งเพราะเหตุผลหลายประการแต่ก็รวมถึง การที่มีงบไม่เพียงพอจนทำให้หน่วยงานนี้มีเจ้าหน้าที่น้อยกว่าที่ควรด้วย

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG