ผู้แทนของรัสเซียและยูเครน จัดการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ในวันจันทร์ผ่านการประชุมวิดีโอออนไลน์ การเจรจาดำเนินไปหลายชั่วโมงแต่จบลงโดยไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยทางที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า การเจรจาต้องหยุดชะงัก "เพราะปัญหาทางเทคนิค" และทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีการเจรจารอบใหม่ในวันอังคาร ตามรายงานของเอพี
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้แทนการเจรจาของรัสเซียและยูเครนต่างแสดงความหวังว่าจะสามารถหาทางออกให้กับความขัดแย้งในขณะนี้ได้ โดย มีไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า "ผู้แทนรัสเซียได้รับฟังข้อเสนอจากทางยูเครนอย่างระมัดระวัง"
และในขณะที่การเจรจากำลังดำเนินต่อไป กองทัพรัสเซียก็ยังคงระดมโจมตีใส่หลายเมืองในยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้ทหารรัสเซียอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเคียฟราว 15 กิโลเมตร
ในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสียงเตือนภัยทางอากาศได้ดังขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ ตั้งแต่เมืองทางภาคตะวันออกติดชายแดนรัสเซียไปถึงภาคตะวันตกติดชายแดนโปแลนด์ ขณะที่การสู้รบบริเวณชานกรุงเคียฟเป็นไปอย่างดุเดือด มีรายงานว่าทหารรัสเซียใช้ปืนใหญ่ยิงใส่ชุมชนหลายแห่งไม่ไกลจากใจกลางเมืองหลวงของยูเครน
ที่หมู่บ้านแอนโตโพลทางภาคตะวันตก มีรายงานการโจมตีด้วยจรวดใส่หอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน นอกจากนี้มีรายงานเครื่องบินรัสเซียโจมตีใส่เมืองมีโคลาอีฟทางภาคใต้ และเมืองเชอร์นาฮีฟทางภาคเหนือด้วย
ส่วนที่เมืองมาริอูโพลทางภาคใต้ ทางการยูเครนรายงานว่า ขบวนรถยนต์ของประชาชนราว 160 คันได้เดินทางออกจากเมืองดังกล่าวผ่าน "เส้นทางมนุษธรรม" ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถอพยพออกจากเมืองท่าของยูเครนที่ถูกถล่มโจมตีอย่างหนักแห่งนี้ได้
โรเบิร์ต มาร์ดินี ผู้อำนวยการใหญ่ของคณะกรรมการกาชาดสากล กล่าวว่า สงครามได้กลายเป็น "ฝันร้าย" ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ถูกถล่มโจมตีเหล่านั้น และขอให้มีการอพยพประชาชนออกมาจากเมืองต่าง ๆ อย่างปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงพื้นที่สงครามต่าง ๆ ได้โดยเร็ว
จนถึงขณะนี้ สหประชาชาติคาดการณ์ว่ามีประชาชนเสียชีวิตในยูเครนแล้วราว 600 คนนับตั้งแต่รัสเซียยกพลบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม แต่เชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้มาก ขณะที่มีผู้ลี้ภัยแล้วหลายล้านคน โดยในจำนวนนี้มากกว่า 2.8 ล้านคนข้ามพรมแดนเข้าไปในโปแลนด์และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือเป็นวิกฤตการอพยพลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง