รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มค่ายฝึกทหารขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยูเครนในวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 ราย บาดเจ็บ 134 คน อ้างอิงจากรายงานของเจ้าหน้าที่ยูเครน
ค่ายทหารยาโวรีฟแห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของยูเครน ห่างจากชายแดนโปแลนด์ 25 กิโลเมตร และ 60 กิโลเมตรจากเมืองลวีฟซึ่งเป็นศูนย์กลางของผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่จะเดินทางเข้าไปในโปแลนด์
นอกจากนี้ค่ายทหารดังกล่าวยังเป็นสถานที่ที่องค์การนาโต้ใช้ในการฝึกฝนทหารยูเครนภายใต้ชื่อ ศูนย์เพื่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ (International Center for Peacekeeping and Security) ด้วย
ผู้ว่าการเมืองลวีฟ กล่าวว่า มีขีปนาวุธ 30 ลูกยิงใส่ค่ายทหารยาโวรีฟ ซึ่งไม่ตรงกับรายงานของโฆษกกองทัพยูเครนที่ระบุว่ามีขีปนาวุธราว 8 ลูกที่ยิงใส่ค่ายทหารแห่งนี้
นักการทูตของชาติตะวันตกบางคนเชื่อว่า การโจมตีค่ายยาโวรีฟนี้สอดคล้องกับสัญญาณเตือนจากทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันเสาร์ว่า ขบวนรถทหารของชาติตะวันตกที่เข้าไปในยูเครนจะถูกจัดว่าเป็นเป้าหมายในการโจมตีของกองทัพรัสเซียด้วย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัสเซียเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางทหารในบริเวณภาคตะวันตกของยูเครนมากขึ้น แต่การยิงขีปนาวุธถล่มค่ายทหารยาโวรีฟในวันอาทิตย์ ถือเป็นการโจมตีที่ไกลที่สุดเข้าไปในภาคตะวันตกของยูเครน และทำให้เกิดความกังวลว่าเมืองลวีฟอาจตกเป็นเป้าหมายของการทำสงครามในยูเครนด้วย
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า เบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรของรัสเซียอาจส่งทหารเข้าร่วมสงครามในยูเครนด้วย โดยใช้วิธีบุกโจมตีเมืองใหญ่ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของยูเครน รวมทั้งเมืองลวีฟ ซึ่งจะทำให้เมืองแห่งนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จำนวนมากอีกต่อไป
ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหมยูเครนเรียกการโจมตีค่ายทหารยาโวรีฟว่าเป็น "การก่อการร้าย" พร้อมเรียกร้องให้องค์การนาโต้กำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครน ขณะที่นักการเมืองอาวุโสของเยอรมนี นอร์เบิร์ต รอตต์เกน ทวีตว่า การโจมตีเมืองลวีฟซึ่งไม่ไกลจากกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี แสดงให้เห็นว่าสงครามครั้งนี้กำลังขยับเข้ามาใกล้ประเทศอื่นในยุโรปมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเยอรมนีจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาสันติภาพในยุโรป
ขณะเดียวกัน ยูเครนยังคงเรียกร้องให้องค์การนาโต้ประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครน แต่ผู้นำชาติตะวันตกยังยืนกรานปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า การจะทำให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบินได้นั้น นาโต้จะต้องส่งเครื่องบินรบไปยังน่านฟ้าของยูเครนและยิงเครื่องบินของรัสเซีย ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีแต่จะทำให้สงครามกับรัสเซียขยายตัวยิ่งขึ้น
ทางด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวหาบรรดาผู้นำของนาโต้ว่า กำลัง "ไฟเขียว" ให้กองทัพรัสเซียโจมตีประชาชนยูเครน ด้วยการปฏิเสธจัดตั้งเขตห้ามบิน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเขตห้ามบินอาจจะไม่ได้ช่วยป้องกันการโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้ดังที่ยูเครนหวังไว้
และในขณะที่กำลังเกิดความกังวลต่อการโจมตีของรัสเซียในภาคตะวันตกของยูเครน ผู้ว่าการเขตปกครองดอเนตสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครนได้กล่าวว่า เมืองโวลโนวาคาในดอเนตสก์ได้ถูกทหารรัสเซียถล่มราบคาบไปแล้ว ขณะที่เมืองมาริอูโพลซึ่งอยู่ไม่ไกลก็กำลังถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมและระดมโจมตีอย่างหนักในช่วง 11 วันที่ผ่านมา
สหรัฐฯ เร่งส่งอาวุธ 200 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครนรับศึกรัสเซีย
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงการส่งอาวุธต่าง ๆ ไปให้กับยูเครนเพื่อใช้ในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์
โดยความช่วยเหลือเพิ่มเติมชุดใหม่นี้จะรวมถึงปืนต่อต้านรถถัง ปืนต่อต้านอากาศยาน และปืนสั้นกับปืนยาว รวมมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ยูเครนกำลังร้องขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากชาติตะวันตก
จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ จัดหาความช่วยเหลือด้านความมั่นคงไปให้กับยูเครนแล้วรวม 1,200 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว