ราคาสินค้าผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับพุ่งสูงต่อเนื่องในเดือนมกราคมมาที่อัตรา 7.5 % ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ตามรายงานของกระทรวงแรงงานที่ออกมาในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
ชาวอเมริกันกำลังเผชิญภาวะต้นทุนการใช้ชีวิตที่สูงขึ้น จากการปรับเพิ่มของราคาอาหารและวัตถุดิบในการปรุงอาหารต่างๆ น้ำมันรถ ไปจนถึงสินค้าชิ้นใหญ่ เช่นรถ เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย
การพุ่งขึ้นของภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงนี้เป็นผลมาจากปัญหาด้านอุปสงค์-อุปทานที่เกี่ยวเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาจับจ่ายซื้อของกันบ้างแล้ว หลังหลายคนยอมไม่ควักกระเป๋าใช้เงินมากในช่วงที่มีการระบาดหนัก แต่ภารการผลิตกลับมีปัญหาไม่สามารถนำส่งสินค้าออกมาได้ทันตามความต้องการ ขณะที่ ยังมีเรื่องของการขาดแคลนผู้จัดส่งทั้งทางเรือและทางบกไปยังร้านค้าต่างๆ อยู่ด้วย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า รายงานล่าสุดของกระทรวงแรงงาน “คือเครื่องเตือนใจว่า แม้งบประมาณการใช้จ่ายของชาวอเมริกันนั้นกำลังตึงตัวอยู่พอควร และส่งผลให้เกิดภาวะตึงเครียดที่ชัดเจนในครัวเรือน มีสัญญาณออกมาว่า เราทุกคนจะผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ไปได้ในที่สุด”
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า มีการประมาณการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัดภายในสิ้นปีนี้ และในช่วงนี้ เริ่มมีพัฒนาการด้านบวกในประเทศบ้างแล้ว จากการขยายตัวของอัตราค่าจ้างในเดือนที่ผ่านมา และการทรงตัวของราคารถ ซึ่งรวมกันแล้วมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 4 ของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เกร็ก แมคไบรด์ หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์ด้านการเงินของ Bankrate.com ให้ความเห็นว่า แรงกดดันราคาสินค้าผู้บริโภคต่อครัวเรือนสหรัฐฯ ยังไม่น่าจะหมดไปง่ายๆ เพราะราคาบ้านและที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้นถึง 20% เมื่อปีที่แล้ว และอัตราค่าเช่าที่กำลังปรับขึ้นตาม และเพิ่มขึ้นแล้ว 0.5% ในเดือนที่ผ่านมา
ถึงกระนั้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า แรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะค่อยๆ อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ขณะที่ ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของประเทศในเดือนหน้า เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อและควบคุมไม่ให้สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ร้อนแรงจนเกินไป
ทั้งนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นน่าจะช่วยเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไม่ทะยานขึ้นไปอีกได้
