ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แนะนำให้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับเปลี่ยนนโยบายของตนเพื่อเกื้อหนุนเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงที่แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงทำราคาสินค้าปรับขึ้นอย่างมาก
ปธน.ไบเดน กล่าวระหว่างการเข้าร่วมงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า เมื่อพิจารณาความแข็งแกร่งของสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ควบคู่กับภาวะราคาสินค้าพุ่งสูงในเวลานี้ สิ่งที่เหมาะสมที่จะดำเนินการ อย่างที่ “ประธานเฟด (เจอโรม) พาวเวลล์ ระบุไว้ก่อนหน้า ก็คือ การปรับเปลี่ยนแรงสนับสนุนอันเป็นสิ่งที่จำเป็นในเวลานี้”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า เฟดนั้นมีหน้าที่อันสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำทุกอย่างให้มั่นใจว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้นจะไม่เป็นสถานการณ์ที่คงอยู่ตลอดไป โดยดำเนินการแบบคู่ขนานในการดูแลให้การว่าจ้างงานอยู่ในระดับเต็มอัตรา และราคาสินค้ามีเสถียรภาพไปด้วย
ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดน กล่าวว่า ทั้งทำเนียบขาวและสภาคองเกรสน่าจะสามารถช่วยควบคุมภาวะเงินเฟ้อของประเทศได้ ด้วยการแก้ปัญหาในระบบห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมการแข่งขัน และผ่านกฎหมาย Build Back Better ที่มีงบใช้จ่ายก้อนโตในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการดูแลเด็กและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของครอบครัวได้
ก่อนหน้านี้ สมาชิกเฟดได้ส่งสัญญาณออกมาว่า จะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงของประเทศหลายครั้งในปีนี้ โดยคาดว่า จะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป เพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มสูงในระดับที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวระหว่างการเข้าให้ข้อมูลสำหรับการพิจารณาการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดสมัยที่ 2 ว่า ตนจะไม่ยอมให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งทรงตัวอยู่เช่นนี้ตลอดไป และเน้นว่า การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่อง