ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณออกมาในวันพุธว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในเดือนมีนาคม รวมทั้งยืนยันแผนยุติการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลในเดือนเดียวกัน ก่อนจะเริ่มทำการลดการถือครองสินทรัพย์ครั้งใหญ่ต่อไป ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
การส่งสัญญาณทิศทางการทำงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ นี้ มีออกมาหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเป็นระยะเวลา 2 วัน และสิ้นสุดลงในวันพุธ ซึ่งสะท้อนจุดยืนการดำเนินงานในแบบที่จะมุ่งผ่อนคลายนโยบายการเงิน ที่เป็นหัวใจหลักในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศระหว่างที่มีการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งเป็นการย้ำความพยายามที่จะจัดการกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งอย่างเร่งด่วนด้วย
แถลงการณ์คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ ระบุว่า “ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 2% แต่ตลาดแรงงานในประเทศเริ่มแข็งแกร่งขึ้นนี้ ทางคณะกรรมการคาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศคือ สิ่งที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง”
เฟดยังเปิดเผยด้วยว่า สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินต่างเห็นพ้องต่อหลักการ “ลดการถือครองสินทรัพย์ครั้งใหญ่” ด้วยการจำกัดตัวเลขเงินต้นของพันธบัตรที่กำลังจะหมดอายุและจะต่ออายุใหม่ในแต่ละเดือน
นอกจากนั้น เฟดระบุว่าเป็น การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการว่าจ้างงาน แม้ในช่วงที่การระบาดของโอมิครอนจะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยรายวันเพิ่มสูงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องก็ตาม รวมทั้ง ความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทานโลก น่าจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันเงินเฟ้อได้
ขณะเดียวกัน ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดกว้างและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน เพื่อไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงนี้กลายมาเป็นสถานการณ์ยืดยาวที่คงอยู่ตลอดไป แต่ย้ำว่า ในเวลานี้ ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินโนบายดังกล่าว
- ที่มา: รอยเตอร์