รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติให้มีการดำเนินการก่อสร้างโครงการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มอีก 2 โครงการ พร้อมเดินหน้าเปิดพื้นที่สาธารณะใน 3 รัฐทางภาคตะวันตกของประเทศสำหรับโครงการแบบเดียวกันนี้ในอนาคต ตามแผนงานของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกด้วยการค่อยๆ ยกเลิกการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล
สำนักงานจัดการที่ดินสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Land Management – BLM) คือ หน่วยงานที่อนุมัติโครงการใหม่ทั้งสองซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองริเวอร์ไซด์เคาน์ตี้ ทางตะวันออกของนครลอสแอนเจลิส ซึ่งมีความสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้ารวมกันได้ถึง 465 เมกะวัตต์ หรือมากพอสำหรับการแจกจ่ายให้บ้านเรือนราว 132,000 หลังใช้งาน ขณะที่ ทางสำนักงานฯ มีแผนจะอนุมัติโครงการที่ 3 ที่มีความสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 500 เมกะวัตต์ในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนั้น BLM ยังออกประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เชิญชวนให้มีการเสนอที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการแบบเดียวกันนี้ ในพื้นที่ “โซนพลังงานแสงอาทิตย์” ในรัฐโคโรลาโด เนวาดา และนิวเม็กซิโก ที่มีขนาดรวมกันราว 140 ตารางไมล์ หรือประมาณ 360 ตารางกิโลเมตรด้วย
การเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทางเลือก เช่น ลมและแสงอาทิตย์ นี้ เป็นไปตามแผนงานของรัฐบาลปธน.ไบเดน ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของการปรับขึ้นของอุณหภูมิโลก ซึ่งต่างจากนโยบายในยุคของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งเสริมการทำเหมืองถ่านหินและการขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จกับความพยายามที่จะระงับการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ขุดได้จากพื้นที่สาธารณะและจากทะเล หลังตุลาการศาลรายหนึ่งมีคำตัดสินให้ การดำเนินการดังกล่าวเดินหน้าต่อไป ตามคำฟ้องจากรัฐต่างๆ ที่พรรครีพับลิกันคุมอยู่
