รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้กำลังพลจำนวน 8,500 นายเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ในกรณีที่ต้องมีการเคลื่อนพลไปช่วยกองกำลังของนาโต้ หากรัสเซียส่งทหารรุกข้ามพรมแดนเข้าไปยังยูเครน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
จอห์น เคอร์บี้ โฆษกเพนตากอนเปิดเผยในวันจันทร์ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน เป็นผู้แนะนำประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้มีคำสั่งเตรียมพร้อมกำลังพลดังกล่าวไว้ก่อน หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ได้พยายามลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่ชายแดนติดกับยูเครน ซึ่งเครมลินส่งทหารจำนวนนับแสนนายเข้าตรึงกำลังไว้อยู่
ทั้งนี้ เคอร์บี้ ไม่ได้ระบุว่า สหรัฐฯ มีกำหนดการแน่นอนว่าจะต้องเคลื่อนพลเมื่อใด และย้ำว่า การเตรียมการนี้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้นาโต้มั่นใจว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะเข้าช่วยหากต้องมีการใช้กำลังทหารเพื่อตอบโต้เหตุการณ์รุกยูเครนขึ้นมา
โฆษกเพนตากอน กล่าวว่า การเคลื่อนกำลังพลของสหรัฐฯ นั้นจะเกิดขึ้น เมื่อกองกำลังพันธมิตรนาโต้ตัดสินใจสั่งให้มีการเดินทัพกองกำลังตอบโต้อย่างรวดเร็ว หรือ “หากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์” ที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดจากการสั่งสมกำลังทหารของรัสเซียที่ชายแดนติดกับยูเครน
ขณะเดียวกัน เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐฯ ย้ำมาเสมอว่า จะทำการส่งกำลังพลเข้าเสริมพันธมิตรในแถบตะวันออกของยุโรป ตามที่ทีมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้พูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในยุโรปมาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
การเตรียมพร้อมของเพนตากอนในครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกพุ่งสูง ในกรณีความกังวลว่า กรุงมอสโกจะส่งทหารบุกเข้ายูเครน จนทำให้องค์การนาโต้เตรียมกำลังทหารและเรือรบหากต้องมีการเคลื่อนพลแล้ว ขณะที่ อังกฤษเตรียมสั่งเจ้าหน้าที่การทูตบางส่วนของตนเดินทางออกจากกรุงเคียฟ และไอร์แลนด์ออกมาประณามการเดินแผนสงครามของรัสเซียด้วย
- ที่มา: เอพี