เศรษฐกิจอังกฤษ หดตัว 0.3% ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อันเป็นผลพวงจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่พุ่งสูงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในแดนผู้ดี ตามรายงานของเอพี
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของอังกฤษในไตรมาส 3 ของปี ร่วงลง 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีนี้
โดยการปรับลดลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอังกฤษ มีขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเติบโตราว 0.5% ในเดือนตุลาคมของปีนี้ หลังจากลดลง 0.6% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวอังกฤษไว้อาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ
แม้จะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเดือนตุลาคมอยู่บ้าง แต่อังกฤษยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 อ้างอิงจากทัศนะของมาร์ติน เบค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ EY Item Club ซึ่งมองว่า หากจีดีพีประเทศหดตัวต่อเนื่อง 2 ไตรมาสอาจแปลความได้ว่าอังกฤษกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เบค ระบุว่า “ทิศทางเศรษฐกิจในระยะเวลาอันใกล้ยังคงไม่สดใสนัก เนื่องจากผู้บริโภคยังประสบกับความยากลำบากจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง” โดยในเดือนตุลาคม ภาวะเงินเฟ้ออังกฤษ ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ที่ 11.1% เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงในช่วงเวลาดังกล่าว
อีกด้านหนึ่ง ทางธนาคารกลางอังกฤษ อนุมัติการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8 หลังจากอังกฤษประสบปัญหาในการขบแก้ภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายพุ่งมาถึงระดับ 3% จากระดับ 0.1% เมื่อปีก่อน
ทั้งนี้ อังกฤษ ไม่มีหน่วยงานอิสระที่จะระบุว่าเศรษฐกิจประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยเหมือนกับสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งต้องพึ่งพาข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น อัตราการว่างงานและการสูญเสียตำแหน่งงานมาพิจารณาเพิ่มเติม
- ที่มา: เอพี