ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ ซัดจีนส่งมอบวัคซีนโควิดให้ผู้นำเกาหลีเหนือ


This picture taken on November 29, 2020 and released from North Korea's official Korean Central News Agency (KCNA) on November 30, 2020 shows North Korean leader Kim Jong Un (C) attending a meeting of the 21st Political Bureau of the 7th Central…
This picture taken on November 29, 2020 and released from North Korea's official Korean Central News Agency (KCNA) on November 30, 2020 shows North Korean leader Kim Jong Un (C) attending a meeting of the 21st Political Bureau of the 7th Central…

ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของทางการสหรัฐฯ ยืนยันในวันอังคารว่า จีนได้ส่งมอบวัคซีนต้านโคโรนาไวรัส โควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบให้กับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือและคนใกล้ชิดของเขา

นายแฮร์รี คาซิอานิส ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ จาก Center for the National Interest ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ ระบุในบทความที่อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวของหน่วยข่าวกรองญี่ปุ่นซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือและครอบครัว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่ง ได้รับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมาจากจีนแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นวัคซีนโควิดชนิดใด และมีความปลอดภัยมากพอหรือไม่

ด้านนายปีเตอร์ เจ. โฮเตส นักเทคนิคการแพทย์ของทางการสหรัฐฯ กล่าวว่าปัจจุบันมีวัคซีนอย่างน้อย 3 ชนิด ที่บริษัทของจีนกำลังพัฒนาอยู่ ได้แก่ วัคซีนจาก Sinovac Biotech, CanSinoBio และ Sinopharm ซึ่งมีรายงานว่าตอนนี้วัคซีนจากบริษัท SinoPharm นำไปใช้กับประชาชนชาวจีนเกือบ 1 ล้านคนแล้ว ทั้งที่วัคซีนทั้ง 3 ชนิด ยังอยู่ระหว่างการทดสอบกับมนุษย์ในขั้นสุดท้ายอยู่ก็ตาม

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังไม่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ หรือ NIS ได้รายงานต่อสส.เกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนือสั่งปิดพรมแดนกับจีนไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมทั้งมีมาตรการที่ไม่สมเหตุสมผลในการรับมือกับโควิด-19 ในประเทศ

นอกจากนี้ มีรายงานว่าแฮกเกอร์เกาหลีเหนือพยายามเจาะล้วงข้อมูลวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตของเกาหลีใต้ แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งตรงกับรายงานของบริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) ที่ระบุเมื่อเดือนก่อนว่า กลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออย่างน้อย 2 กลุ่มพยายามเจาะระบบของผู้ผลิตวัคซีนในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงบริษัท AstraZeneca ของฝั่งอังกฤษด้วย ตามรายงานของรอยเตอร์

XS
SM
MD
LG