เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังถูกพักงานจากเหตุการณ์ลากผู้โดยสารลงจากเครื่องบินของ United Airlines เมื่อวันที่ 9 เมษายน เปิดปากครั้งแรกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยบอกว่า "ตนจำเป็นต้องควบคุมผู้โดยสารผู้นั้น แต่ก็พยายามใช้กำลังให้น้อยที่สุด”
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมาริซิโอ รอดริเกซ ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจสนามบิน 3 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ บอกด้วยว่า
“สาเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารเลือดกบปากนั้น เพราะเขาขัดขืนและกระแทกกับพนักวางแขนเอง ก่อนที่ตนและตำรวจอีกผู้หนึ่งจะลากเขาลงจากเครื่อง”
เหตุการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ และผู้โดยสารผู้นั้นซึ่งทราบต่อมาว่าคือ ดร.เดวิด เตา ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามวัย 69 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ จมูกแตก ฟันหน้าหักไปสองซี่
และมีแนวโน้มว่า ดร.เดวิด เตา จะยื่นฟ้องสายการบิน United จากเหตุที่เกิดขึ้นด้วย
ทนายโทมัส เดเมทริโอ กล่าวว่า "นายแพทย์เตาต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนกระชากและจับลากออกจากเครื่องบิน"
กรณีนี้เป็นเรื่องขึ้นเมื่อสายการบิน "United Airlines" ขายตั๋วที่นั่งเกินจำนวน ซึ่งเป็นระบบที่สายการบินจำนวนมากใช้เพื่อเป็นการเผื่อสำหรับผู้โดยสารบางคนที่ไม่มาขึ้นเครื่อง
และสำหรับเที่ยวบินที่เกิดเหตุครั้งนี้ หลังจากที่สุ่มเลือก เจ้าหน้าที่ต้องการให้ผู้โดยสาร 4 รายสละที่นั่งพร้อมให้เงินตอบแทน
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เตาปฏิเสธที่จะรับเงินตอบแทน และว่าเขาต้องบินจากนครชิคาโก ไปจุดหมายปลายทางที่เมืองหลุยส์วิว รัฐเคนตัคกี เนื่องจากต้องไปดูคนไข้ในวันรุ่งขึ้น
การขัดขืนของเขานำไปสู่การเข้าใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบิน ต่อนายแพทย์ผู้นี้
เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดเสียงตำหนิไปทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเวียดนาม