ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวย้ำในวันอังคารว่า ยูเครนจะสู้กลับรัสเซียในทะเลดำ เพื่อให้แน่ใจว่าน่านน้ำของประเทศจะไม่ถูกปิดกั้นและให้ยูเครนสามารถนำเข้าและส่งออกธัญพืชและสินค้าอื่น ๆ ได้ ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้นำยูเครนปรากฎในคลิปวิดีโอทางเว็บไซต์ของประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า “หากรัสเซียยังเดินหน้าควบคุมทะเลดำนอกเหนือจากเขตแดน ปิดกั้นหรือยิงโจมตี และยิงขีปนาวุธเข้าใส่ท่าเรือของเราอีกครั้ง ยูเครนก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน นี่คือการปกป้องโอกาสบนเส้นทางต่าง ๆ ของเรา”
ปธน.เซเลนสกี เสริมว่า “เราไม่มีเรือมากมายขนาดนั้น แต่พวกเขาควรจะเข้าใจอย่างชัดแจ้งว่าเมื่อสิ้นสุดสงครามเมื่อใด พวกเขาจะไม่เหลือเรือแม้แต่ลำเดียว”
ความเห็นของปธน.เซเลนสกี มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากโดรนทะเลยูเครนซึ่งติดระเบิดเข้าทำลายเรือรบรัสเซียใกล้กับท่าเรือสำคัญของรัสเซีย และโดรนดังกล่าวยังเข้าโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซีย
นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้รัสเซีย ยุติการยิงขีปนาวุธและโดรนบริเวณท่าเรือ และเปิดทางให้กลับมาเดินเรือได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ความตึงเครียดภายในและใกล้กับทะเลดำยกระดับรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงที่เปิดทางให้มีการส่งออกธัญพืชอย่างปลอดภัยจากท่าเรือของยูเครน และมีรายงานโดรนและขีปนาวุธรัสเซียระดมโจมตีท่าเรือและไซโลเก็บธัญพืชยูเครนอย่างต่อเนื่อง
ฝั่งยูเครนตอบโต้กลับโดยการโจมตีด้วยโดรนทะเลกับเรือรบและเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย บริเวณฐานทัพเรือโนโวรอสซิสก์ (Novorossiysk) ซึ่งอยู่ถัดจากท่าเรือขนส่งธัญพืชและน้ำมันของรัสเซีย
ที่ผ่านมา รัสเซียปิดกั้นท่าเรือยูเครนในทะเลดำตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการส่งทหารรุกรานยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเนื่องจากเศรษฐกิจของยูเครนพึ่งพาภาคการส่งออกเหล็กกล้าและธัญพืชเป็นสินค้าหลัก
- ที่มา: รอยเตอร์