กองกำลังรัสเซียเดินหน้าถล่มยูเครนด้วยขีปนาวุธในวันพฤหัสบดี โดยพุ่งเป้าไปยังหลายพื้นที่ทั่วประเทศและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย
เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่า ระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนสามารถยิงขีปนาวุธรัสเซียตกลง 16 ลูก จากทั้งหมดที่ยิงเข้ามา 36 ลูกด้วย
การโจมตีทางอากาศระลอกล่าสุดของรัสเซียเกิดขึ้น ขณะที่ นอร์เวย์ประกาศอนุมัติความช่วยเหลือมูลค่ารวม 7,000 ล้านดอลลาร์เป็นระยะเวลา 5 ปีให้กับยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ความช่วยเหลือจากนอร์เวย์นี้ทำให้ทั้งสองประเทศแข็งแกร่งขึ้น และว่า รัสเซียจะไม่มีทางเอาชนะ “ความสามัคคีของทุกคนที่ยึดมั่นในเสรีภาพ”
ปธน.เซเลนสกี ยังกล่าวต่อที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานอร์เวย์ผ่านระบบวิดีโอลิงค์ด้วยว่า “ในเวลานี้ ท่านได้จัดตั้งความช่วยเหลือทางการเงินระยะยาวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ให้กับประเทศที่ปกป้องอิสรภาพของตนเองและสิทธิ์ของทุกชาติที่ดำเนินชีวิตตามบรรทัดฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล”
เจ้าหน้าที่ยูเครนยังเตือนอีกครั้งว่า รัสเซียอาจทำการโจมตีครั้งใหม่ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการรุกรานยูเครนที่ใกล้จะมาถึง
มติยูเอ็น
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมนำร่างมติฉบับใหม่เข้าสู่การลงคะแนนเสียงในการประชุมนัดพิเศษสัปดาห์หน้า โดยร่างมติดังกล่าวมีเนื้อหาเรียกร้องให้มีการยุติการทำศึกสงครามในยูเครนและมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพเพื่อให้ “อธิปไตย อิสรภาพ เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน” ของยูเครนยังคงอยู่ต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นน่าจะอนุมัติมตินี้ในการประชุมวันที่ 23 กุมภาพันธ์ หรือ 1 วันก่อนวันครบรอบ 1 ปีสงครามยูเครน โดยมติดังกล่าวยังมีเนื้อหาเรียกร้องให้ สหประชาชาติและประเทศและรัฐที่เป็นสมาชิกสนับสนุนความพยายามด้านการทูตที่พุ่งเป้าสร้างสันติภาพในยูเครนด้วย
นอกจากนั้น ร่างมติฯ นี้ยังขอให้รัสเซียยุติการโจมตีเข้าใส่โครงสร้างพื้นฐานพลเรือนของยูเครน และให้ถอนกำลังทหารทั้งหมดของตนออกจากยูเครนโดยทันที
แม้มติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นจะไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย แต่ก็มีน้ำหนักในแง่การเมืองเพราะเป็นการสะท้อนจุดยืนความคิดเห็นของประชาคมโลก
อย่างไรก็ตาม การออกมติคล้าย ๆ กันนี้โดยคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นนั้นใช้ไม่ได้ผล เพราะรัสเซียเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรที่มีอำนาจวีโต้มติต่าง ๆ ได้
ที่ผ่านมา ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นได้อนุมัติมติมาหลายครั้งเพื่อสนับสนุนยูเครนและวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการทางทหารของรัสเซีย
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีและรอยเตอร์