คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross – ICRC) เปิดเผยว่า ปฏิบัติการอพยพผู้คนในเมืองมาริอูโพล ของยูเครน ที่ตกอยู่ภายใต้วงล้อมของกองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าอยู่ แม้หลังเครมลินจะออกมาประกาศว่า แผนงานดังกล่าวล้มเหลวไปแล้ว และเป็นความผิดของทางกลุ่มด้วย
สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ขบวนนำส่งความช่วยเหลือเหยื่อสงครามในยูเครนยังไม่สามารถเดินทางถึงเมืองมาริอูโพลได้เมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะ “การกระทำที่นำมาซึ่งความเสียหาย” ของ ICRC
แต่ ICRC กล่าวว่า ขบวนความช่วยเหลือของตนที่เดินทางออกจากเมืองท่าของยูเครนต้องวกกลับไปจุดตั้งต้นเมื่อวันศุกร์ เพราะไม่สามารถเดินหน้าภารกิจอพยพพลเรือนตามแผนได้
โฆษกของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศระบุในอีเมล์ที่ส่งถึงสื่อต่างๆ ว่า “ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือนให้ออกจากมาริอูโพลนั้น กำลังเดินหน้าอยู่ ขณะที่ สถานการณ์ภาคพื้นดินนั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมออย่างรวดเร็ว” และว่า “เพราะบทบาทของ ICRC ในฐานะคนกลางที่ต้องมีความเป็นกลางในปฏิบัติการที่มีความซับซ้อนสูงนี้ ICRC จึงไม่อยู่ในจุดที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมใดๆ ได้ในเวลานี้”
ทั้งนี้ สื่ออินเตอร์แฟกซ์ รายงานว่า พลโทอาวุโส มิคาอิล มิซินท์เซฟ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์การจัดการป้องกันประเทศแห่งชาติรัสเซีย กล่าวว่า ICRC แสดงให้เห็นว่า ทางองค์กรไม่มีความสามารถในการจัดหาความช่วยเหลือ หรือการเตรียมการอพยพพลเรือนออกจากเมืองได้เลย
ขณะเดียวกัน ผู้คนที่สามารถหลบหนีออกมาจากเมืองมาริอูโพล จนมาถึงเมืองซาโปริซเซีย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงความยากลำบากในการเดินทางอพยพ ที่มีทหารรัสเซียคอยหยุดขบวนเป็นระยะๆ เพื่อค้นหาว่ามีนักรบชาวยูเครนซ่อนอยู่ในกลุ่มหรือไม่
ดมิโทร คาร์ตาวอฟ วัย 32 ปี ซึ่งมีอาชีพก่อสร้าง บอกว่า ทหารรัสเซียจับผู้ชายทุกคนถอดเสื้อผ้าออกหมด เพื่อตรวจสอบหารอยสัก โดยมีการจ้องจับผิดที่บริเวณหัวเข่าเป็นพิเศษ ซึ่ง คาร์ตาวอฟ บอกว่า ตนทำงานเป็นช่าง ก็ต้องคุกเข่าทำงานเป็นประจำ แต่ทหารรัสเซียแย้งว่า หัวเข่าตนมีร่องรอยการใช้งาน เพราะต้องปินเพลาะสนาม และขุดเพลาะต่างๆ มากกว่า