เมื่อวันพุธ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นจีเอ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 143 เสียงจากทั้งหมด 193 เสียงประณามรัสเซียต่อความพยายามผนวกดินแดนสี่แห่งของยูเครน ส่วนไทยงดออกเสียง ขณะที่พันธมิตรของยูเครนเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารมากขึ้น หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโมตียูเครน ตามรายงานของรอยเตอร์
ประเทศสมาชิกยูเอ็นจีเอทั้ง 143 ประเทศ ออกเสียงสนับสนุนมติที่ระบุว่า ท่าทีของรัสเซียนั้นผิดกฎหมาย ซึ่งการลงคะแนนเสียงจากยูเอ็นครั้งนี้ทำให้รัสเซียโดดเดี่ยวจากนานาชาติมากยิ่งขึ้น
นอกจากรัสเซียแล้ว ยังมีอีกเพียงสี่ประเทศที่ออกเสียงคัดค้านมติดังกล่าว ได้แก่ ซีเรีย นิการากัว เกาหลีเหนือ และเบลารุส และมี 35 ประเทศที่งดออกเสียง รวมทั้งไทย และจีน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ขณะที่ประเทศที่เหลือไม่ได้เข้าร่วมออกเสียงในครั้งนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตข้อความว่า เขารู้สึกขอบคุณ 143 ประเทศที่สนับสนุน “มติ #UNGA ครั้งประวัติศาสตร์” และความพยายามผนวกดินแดนของรัสเซียนั้น “ไร้ค่า”
ขณะเดียวกัน ประเทศตะวันตกกว่า 50 ประเทศเข้าร่วมประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน โดยเฉพาะอาวุธป้องกันภัยทางอากาศ หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งโจมตียูเครนเพื่อตอบโต้การระเบิดสะพานในแคว้นไครเมีย
หลายประเทศที่ประกาศเพิ่มการช่วยเหลือ รวมถึงฝรั่งเศสที่ระบุว่าจะส่งระบบเรดาร์และระบบป้องกันทางอากาศให้ยูเครนในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ และแคนาดาที่กล่าวว่า จะส่งลูกปืนใหญ่ ชุดกันหนาว และปัจจัยอื่น ๆ ให้ยูเครน
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุม Ukraine Defence Contact Group ที่กรุงบรัสเซลส์ว่า การโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซีย เผยให้เห็น “ความโหดร้ายทารุณ” ของรัสเซียนับตั้งแต่การเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คนนับตั้งแต่วันจันทร์ หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครน
ออสตินยังระบุด้วยว่า แม้ยูเครนจะกลับมาได้เปรียบขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน แต่ก็ยังต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม และ “เราจะทำทุกทางเท่าที่ทำได้ เพื่อให้มั่นใจว่า (ยูเครน) จะมีสิ่งที่จำเป็นเพื่อ (ดำเนินการ) อย่างมีประสิทธิภาพ”
- ที่มา: รอยเตอร์