เจ้าหน้าที่รัฐบาลเครมลินและผู้เชี่ยวชาญที่สนับสนุนรัฐบาลต่างออกมาสรรเสริญการที่มอสโกยิงขีปนาวุธถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครนกันถ้วนหน้า หลังจากก่อนหน้านี้วิพากษ์วิจารณ์กองทัพต่อความปราชัยที่ถูกมองว่าเป็นความน่าอับอายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
นักวิเคราะห์ข่าวหัวชาตินิยมในรัสเซียและผู้สื่อข่าวด้านสงครามของสื่อรัฐแสดงความยินดีต่อยุทธวิธีการโจมตีของกองทัพมอสโกในวันจันทร์ว่า เป็นการตอบโต้อันเหมาะสมที่รอกันมานานเพื่อจัดการกับการโต้คืนของยูเครนที่ประสบความสำเร็จในการยึดอาณาเขตของตนคืนกลับไป และสำหรับการโจมตีสะพานสำคัญที่เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียและแคว้นไครเมีย
กลุ่มคนเหล่านี้ยังให้ความเห็นว่า มอสโกควรเดินหน้ายกระดับการโจมตีอย่างที่ทำในวันจันทร์เพื่อให้ได้ชัยชนะเบ็ดเสร็จจากสงครามครั้งนี้ที่ดำเนินมาเกือบ 8 เดือนแล้ว ขณะที่ นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อาจเริ่มเสียศูนย์ในการเดินหน้าการรบแล้ว
ทาเทียนา สตาโนวายา ผู้ก่อตั้งหน่วยงานคลังสมองอิสระ R.Politik เขียนในบทความแสดงความคิดเห็นที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางออนไลน์เมื่อวันจันทร์ว่า “ความคิดริเริ่มของปูตินเริ่มอ่อนแรงลง และเขากำลังเริ่มพึ่งพาสภาพแวดล้อมและผู้คนที่ช่วยให้เขาได้ชัยชนะ (ในยูเครน) แล้ว” และว่า “ความกลัวต่อการพ่ายแพ้นั้นเริ่มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่หมกมุ่นกับปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ จนกระทั่งการที่ปูตินไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ภายใต้ตรรกะของเขาที่ว่า ‘เรายังไม่ได้เริ่มทำอะไรมากมายเลย’ และ ‘ยุทธวิธีที่มีการยับยั้งไว้บ้างนั้นเริ่มออกผลแล้ว’ กำลังกลายมาเป็นปัญหาใหม่ในเวลานี้
เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ กลุ่มผู้สนับสนุนปูตินเรียกร้องให้มีการยกระดับการทำการรบในยูเครน และเสียงเรียกร้องดังว่าเริ่มดังมากขึ้นหลังการระเบิดสะพาน เคิร์ชบริดจ์ ซึ่งเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในยุโรปและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอำนาจทางทหารของรัสเซีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
อเล็กซานเดอร์ คอตส์ ผู้สื่อข่าวด้านสงครามของหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ Komsomolskaya Pravda ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนเครมลิน ระบุในบทความของตนเองว่า “นี่คือหนึ่งในกรณีที่ประเทศควรแสดงให้เห็นว่า เราสามารถโต้เอาคืนได้” ขณะที่ เซอร์เกย์ มิโรนอฟ ผู้นำพรรค A Just Russia ที่รัฐบาลหนุนหลัง ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า มอสโกควรเลิกสนใจความคิดเห็นของชาติตะวันตกและดำเนินการหาคำตอบต่อการโจมตีต่อสะพานเชื่อมรัสเซียกับไครเมียได้แล้ว โดยระบุว่า “ถึงเวลาที่ต้องสู้แล้ว เอาให้ดุเดือด หรือไม่ก็โหดหินเลย โดยไม่ต้องหันไปมองว่าจะมีการลงโทษอะไรจากฝั่งตะวันตก”
และหลังการยิงถล่มเมืองสำคัญ ๆ ของยูเครน ซึ่งรวมถึงกรุงเคียฟและเมืองหลวงของแคว้นและเขตปกครองต่าง ๆ ของประเทศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย ทั้งยังสร้างความเสียหายในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายสำคัญของยูเครน มาร์การิตา ซิโมนยัน ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ RT ของรัฐ ทวีตข้อความออกมาในวันจันทร์ว่า “นี่คือการตอบโต้(ของรัสเซีย)” และว่า “สะพานไครเมียคือเส้นแดงตั้งแต่ต้นแล้ว”
รัมซัน คาดิรอฟ ผู้นำชัชเนีย ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งของรัสเซีย กล่าวว่ ตน “รู้สึกมีความสุข 100%” สำหรับการดำเนินการ ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’ ของเครมลินในยูเครน ขณะที่ เซอร์เกย์ อักสโยนอฟ ผู้ว่าการไครเมียที่กรุงมอสโกแต่งตั้ง ให้ความเห็นว่า การโจมตียูเครนที่เกิดขึ้น คือ “ข่าวดี” และชี้ว่า หากมอสโก “ทำการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของศัตรูทุกวันมาตลอด เราคงเสร็จสิ้น(การทำสงคราม)ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และรัฐบาลกรุงเคียฟคงจะพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว”
- ที่มา: เอพี