รัฐบาลตาลิบันออกคำสั่งประกาศให้วันจันทร์นี้เป็น “วันหยุดแห่งชาติ” เพื่อฉลองการครบรอบ 1 ปีของการยึดอำนาจมาจากรัฐบาลพลเรือนของอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ
การยึดอำนาจโดยกลุ่มตาลิบันเมื่อ 1 ปีก่อนนั้นเกิดขึ้นขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้กำลังถอนกำลังทหารของตนออกจากอัฟกานิสถาน โดยแทบไม่เผชิญแรงต้านจากกองกำลังความมั่นคงอัฟกันที่สหรัฐฯ ช่วยฝึกฝนมาเลย จนทำให้กลุ่มติดอาวุธนี้ยึดครองกรุงคาบูลได้สำเร็จเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมของปีที่แล้ว
คำประกาศของรัฐบาลตาลิบันที่ออกมาในวันอาทิตย์ระบุว่า “วันที่ 15 สิงหาคม คือ วันหยุดแห่งชาติของประเทศ เพื่อเป็นการระลึกวันครบรอบ 1 ปีของชัยชนะของ[สงครามศักดิสิทธิ์]จีฮัดอัฟกันต่อต้านการยึดครองของพวกอเมริกันและพันธมิตรทั้งหลาย”
ทั้งนี้ ตาลิบันตกลงว่า จะไม่ยอมให้อัฟกานิสถานกลายมาเป็นพื้นที่ที่กลุ่มก่อการร้าย เช่น อัลเคดา ใช้งานเพื่อโจมตีสหรัฐฯ และพันธมิตรของตน พร้อมสัญญาว่า จะเคารพสิทธิ์ของชาวอัฟกัน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงด้วย และจะไม่นำนโยบายแข็งกร้าวแบบที่ทางกลุ่มเคยใช้ระหว่างปกครองประเทศในช่วงปี 1996-2001 กลับมาใช้อีก
แต่หลังยึดอำนาจมาได้ รัฐบาลตาลิบันที่มีแต่สมาชิกผู้ชายกลับทำการจำกัดสิทธิ์ของผู้หญิงในการทำงานหรือรับการศึกษาอีกครั้ง ทั้งยังสั่งจำกัดเสรีภาพพลเมืองด้วย โดยอ้างว่า สอดคล้องกับวัฒนธรรมของชาวอัฟกันและกฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลาม
และก่อนจะถึงวันครบรอบปีการยึดอำนาจ อับดุล กาฮาร์ บัลคี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตาลิบัน กล่าวว่า ‘รัฐบาลที่ยังใหม่อยู่’ นี้ได้นำพาเสถียรภาพกลับคืนมาสู่อัฟกานิสถานอย่างรวดเร็ว และได้ “เริ่มต้นเส้นทางสู่สันติภาพ ความมั่นคงและความรุ่งเรืองแล้วด้วย”
บัลคี ยังบอกกับ วีโอเอ ด้วยว่า กระทรวงต่าง ๆ กำลังเร่งทำงานเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายเร่งด่วนทางเศรษฐกิจต่าง ๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเสถียรภาพให้สกุลเงินของประเทศ หรือ การสร้างงานผ่านการส่งเสริมการค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ก็ตาม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกรุงวอชิงตันปลดล็อกการอายัดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางอัฟกานิสถานที่ฝากไว้ในสหรัฐฯ เพื่อให้กรุงคาบูลสามารถสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเสียที
ที่มา: วีโอเอ