ในระหว่างการร่วมหารือของเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการทูตของสหรัฐฯ และจีน ในสัปดาห์นี้ ทั้งสองฝ่ายต่างให้คำมั่นที่จะเปิดช่องทางสื่อสารเอาไว้ ในขณะที่ ความสัมพันธ์ของสองประเทศมหาอำนาจยังอยู่ในภาวะตึงเครียดมาอย่างต่อเนื่อง
การหารือของสองฝ่ายนี้นำทีมโดย เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว และ หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงสุดของจีน ซึ่งมีกำหนดประชุมรวมกันระหว่างวันที่ 10 และ 11 พฤษภาคม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า “ทั้งสองฝ่ายมีการหารือที่ตรงไปตรงมา มีแก่นสาร และสร้างสรรค์ เกี่ยวกับประเด็นหลัก ๆ ในด้านความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของสหรัฐฯ และจีน ประเด็นด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคและของโลก กรณีสงครามรัสเซียในยูเครน และประเด็นในพื้นที่ช่องแคบ และอีกหลาย ๆ เรื่อง”
ขณะเดียวกัน หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน มีแผนที่จะร่วมหารือกับ จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวด้านการทูต
และในวันพฤหัสบดี รมต.หวัง ได้พบกับ นิโคลัส เบิร์นส ทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีนเป็นครั้งแรกด้วย โดยหลังการประชุมเสร็จสิ้น ทูตเบิร์นส ทวีตข้อความที่ระบุว่า “เราหารือกันอย่างเปิดกว้างและลงรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าในระดับทวิภาคี” และว่า “ผมยังได้เน้นย้ำเกี่ยวกับความจำเป็นของการดูแลธุรกิจอเมริกันในจีนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม”
ทูตเบิร์นส ยังทวีตด้วยว่า ตนได้หารือเรื่อง “ความจำเป็นของการสร้างเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์และการขยายช่องทางการสื่อสารในระดับสูง” ระหว่างการประชุมกับ ฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย
เมื่อวันพุธ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งยกเลิกแผนเยือนกรุงปักกิ่งไปหลังเกิดเหตุบอลลูนสายลับของจีนลอยเข้ามาในน่านฟ้าสหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กล่าวระหว่างร่วมงานแถลงข่าวกับ โฮเซ่ มานูเอล อัลบาเรส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสเปน ว่า สหรัฐฯ “รู้สึกกังวล” เกี่ยวกับนโยบายของกรุงปักกิ่งเกี่ยวกับการดูแลผู้ประกอบธุรกิจสัญชาติอเมริกันในจีน ภายใต้กฎหมายต่อต้านการจารกรรมที่เพิ่งประกาศใช้งานออกมา
บลิงเคน กล่าวด้วยว่า “จีนต้องการสร้างบรรยากาศทางธุรกิจในเชิงบวกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ” แต่ “การกระทำที่[จีน]ลงมือทำเกี่ยวกับธุรกิจเหล่านั้น[ต่างชาติ] จะมีผลกระทบครั้งใหญ่”
ในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจจีนดำเนินการบุกตรวจค้นบริษัทหลายแห่งโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ โดยผู้ที่ตกเป็นเป้ามาตรการนี้ มีอาทิ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Capvision และบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบทานธุรกิจ Mintz Group
นอกจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กล่าวมาแล้ว สื่อบลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้ด้วยว่า รมต.หวัง และแคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มีแผนจะพบกันแบบตัวต่อตัวในการประชุมนอกรอบของการประชุมรัฐมนตรีเอเปคในนครดีทรอยต์ในช่วงปลายเดือนนี้
และในเดือนมิถุนายน มีการคาดกันว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และ หลี่ ช่างฝู รัฐมนตรีกระทรวงว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงประจำปี แชงกรี-ลา ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue) ที่สิงคโปร์ แต่กองทัพจีนยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอการประชุมระหว่างเจ้ากระทรวงกลาโหมทั้งสอง ตามที่สหรัฐฯ ยื่นไป
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์