รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลกรุงวอชิงตันและรัฐบาลกรุงปักกิ่ง “สามารถและต้องหาหนทางที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้” แม้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะอยู่ในภาวะตึงเครียดหนักอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ School of Advanced International Studies (SAIS) ของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอพกินส์ แจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ “มีการสร้างความร่วมมือเกี่ยวกับความท้าทายเร่งด่วนของโลกในปัจจุบัน” ระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพโลก แต่ก็ยังแสดงจุดยืนสนับสนุนการดำเนินแผนงานจำกัดทางเศรษฐกิจทั้งหลายต่อจีน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ต่อไป
เยลเลนยังได้กล่าวถึงกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกลุ่มธุรกิจของจีนในพื้นที่มณฑลซินเจียง รวมทั้งฮ่องกงและทิเบต โดยแสดงความหวังว่า สหรัฐฯ และจีนจะสามารถมีส่วนร่วมในการผลักดันเศรษฐกิจโลกให้เดินหน้าได้ในอนาคต
รมต.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า “ความสัมพันธ์ของเรานั้นชัดเจนแล้วว่าอยู่ในภาวะตึงเครียด” และว่า “เป้าหมายของดิฉันก็คือ การที่มีความชัดเจนและมีความซื่อสัตย์ เพื่อจะฝ่าเสียงรบกวนต่าง ๆ ให้(ทุกฝ่ายสามารถ)พูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สำคัญยิ่งนี้ ภายใต้สภาพความเป็นจริงที่ทุกคนมีสติสัมปชัญญะ”
เยลเลนกล่าวด้วยว่า “เราเฝ้าหาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีกับจีน อันซึ่งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตและนวัตกรรมของทั้งสองประเทศด้วย” และเผยความตั้งใจที่จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง “เมื่อมีโอกาสอันเหมาะสม” เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องในการดูแลความสัมพันธ์ของสองประเทศ “ด้วยความรับผิดชอบ” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาที่อาจจะมีการเดินทางที่ว่านี้
เจ้ากระทรวงคลังสหรัฐฯ ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนและรัสเซียประกาศความเป็นหุ้นส่วนแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่า จีนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องสงครามในยูเครนมากนัก พร้อมแสดงจุดยืนที่ว่า ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ คือ “สิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง” ในการเดินหน้ารักษาความสัมพันธ์กับจีน หลังจากเมื่อปีที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ประกาศดำเนินนโยบายสั่งห้ามการส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ล้ำสมัยของอเมริกาให้จีน ที่มีจุดประสงค์จำกัดความสามารถของกรุงปักกิ่งในการพัฒนาระบบทางทหารใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึง อาวุธอำนาจทำลายล้างสูง ด้วย
- ที่มา: เอพีและรอยเตอร์
