จีนประกาศเตรียมดำเนินการตอบโต้ไต้หวัน หลังประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ พบกับผู้นำรัฐบาลไทเปที่แวะพักในแคลิฟอร์เนียหลังเสร็จสิ้นการเยือนอเมริกากลาง พร้อมระบุในวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ กำลัง “อยู่ในเส้นทางที่ผิดและอันตราย”
กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ที่ออกมาในเช้าวันพฤหัสบดีว่า กรุงปักกิ่งจะดำเนิน “มาตรการเด็ดขาดและเฉียบพลันเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน” และเรียกร้องให้สหรัฐฯ “อย่าเดินไปในทางที่ผิดและอันตราย”
แถลงการณ์ของจีนนี้เป็นการตอบโต้การประชุมระหว่างสมาชิกสภาคองเกรสที่สังกัดทั้งสองพรรคใหญ่ซึ่งนำทีมโดยส.ส. เควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาล่างสหรัฐฯ และประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินในวันพุธ เพื่อแสดงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวันซึ่งจีนย้ำมาตลอดว่า เป็นส่วนหนึ่งของตน
ทั้งนี้ ส.ส.แมคคาร์ธีย์ ถือเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติคนแรกของสหรัฐฯ ที่ได้พบกับประธานาธิบดีไต้หวันบนผืนดินสหรัฐฯ นับตั้งแต่รัฐบาลวอชิงตันยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลไทเปเมื่อปี ค.ศ. 1979
แต่รูปแบบอันเป็นทางการของการประชุมในวันพุธ ผนวกกับระดับความอาวุโสของสมาชิกสภาคองเกรสบางรายที่ร่วมหารือกับผู้นำรัฐบาลไทเป น่าจะทำให้จีนมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยกระดับการยั่วยุและความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ไปแล้วได้ แม้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะยืนยันว่า การเยือนสหรัฐฯ ของปธน.ไช่นั้น ไม่ใช่ประเด็นการยั่วยุแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี จีนยังไม่ได้ดำเนินการทางทหารใด ๆ เพื่อตอบโต้ไต้หวันเหมือนในปีที่แล้ว เช่น การส่งเครื่องบินรบ 71 ลำและเรือรบ 7 ลำไปวนรอบไต้หวันในเดือนธันวาคม เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลไทเปได้รับส่วนแบ่งงบการทหารของสหรัฐฯ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน สำนักงานกิจการไต้หวันของรัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ในเช้าวันพฤหัสบดีที่มีเนื้อหาขู่จะดำเนินมาตรการเด็ดขาดเพื่อลงโทษกลุ่มที่จีนเรียกว่าเป็น กองกำลังแบ่งแยกดินแดน “อิสรภาพของไต้หวัน” และเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนเช่นกัน
ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน
ในส่วนของการประชุมระหว่างปธน.ไช่ และประธานสภาฯ แมคคาร์ธีย์ นั้น ทั้งสองพยายามใช้คำพูดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้กรุงปักกิ่งเคืองไปกว่าที่เป็นอยู่ โดยต่างก็รับรู้ถึงคำขู่ของจีนต่อเกาะที่ปกครองตนเองในรบอบประชาธิปไตยนี้
ประธานสภาล่างสหรัฐฯ กล่าวว่า “การสนับสนุนของอเมริกาต่อประชาชนของไต้หวันจะยังมั่นคงแน่วแน่ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และมาจากสมาชิกของสองพรรคใหญ่เสมอ” ขณะที่ ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวว่า “แรงสนับสนุนอันมั่นคงนี้ทำให้ประชาชนของไต้หวันมั่นใจว่า เราจะไม่ถูกโดดเดี่ยวเป็นแน่แท้”
ทั้งสองยังได้พูดถึงความสำคัญของการป้องกันตนเองของไต้หวัน การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง และการสนับสนุนรัฐบาลไทเปให้เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกด้วย
อย่างไรก็ดี ปธน.ไช่ กล่าวเตือนว่า “มันไม่ใช่ความลับเลยว่า วันนี้ สันติภาพที่เราเฝ้ารักษามาและประชาธิปไตยที่เราทำงานอย่างหนักให้คงอยูกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และว่า “เป็นอีกครั้งที่เราพบว่า เราอยู่ในโลกที่ประชาธิปไตยกำลังถูกคุกคาม และความเร่งด่วนในการรักษาประภาคารแห่งเสรีภาพให้ส่องสว่างไว้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะพูดเล่น ๆ ได้เลย”
- ที่มา: เอพี