ลิ้งค์เชื่อมต่อ

อากาศร้อนจัดในสหรัฐฯ คร่าชีวิตประชาชนในฝั่งตะวันตก


นักท่องเที่ยวยืนถ่ายภาพกับป้ายแสดงอุณหภูมิที่ 132 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 55 องศาเซลเซียส ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเฟอร์เนซครีก อุทยานแห่งชาติเดธแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 7 ก.ค. 2567
นักท่องเที่ยวยืนถ่ายภาพกับป้ายแสดงอุณหภูมิที่ 132 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 55 องศาเซลเซียส ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเฟอร์เนซครีก อุทยานแห่งชาติเดธแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 7 ก.ค. 2567

คลื่นความร้อนจัดจนเหมือนจะทำให้ทุกอย่างไหม้เกรียมแผ่เข้าปกคลุมพื้นที่หลายจุดในสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ หลังอุณหภูมิในรัฐโอเรกอนพุ่งสูงที่ทำสถิติใหม่ถูกกล่าวโทษว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายในเมืองพอร์ตแลนด์ เช่นเดียวกับเหตุการณ์เสียชีวิตของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รายหนึ่งขณะเดินทางผ่านพื้นที่หุบเขาเดธแวลลีย์ (Death Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนรุนแรง

เมื่อวันจันทร์ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนภัยอากาศร้อนจัดให้กับประชาชนกว่า 146 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นรัฐทางตะวันตก เช่น แคลิฟอร์เนีย เนวาดา แอริโซนา โอเรกอน วอชิงตันและไอดาโฮ ที่เผชิญกับความร้อนเกินระดับปกติมาก ขณะที่ พื้นที่บางส่วนทางฝั่งตะวันออกของประเทศ รวมทั้งทางใต้ เช่น แอละแบมาและมิสซิสซิปปี ก็ได้รับคำเตือนภัยแบบเดียวกันด้วย

ภาวะคลื่นความร้อนพัดผ่านเข้ามาในสหรัฐฯ เร็วกว่าปกติ ในช่วงที่อุณหภูมิทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกันและเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันด้วยที่อุณหภูมิโลกสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.5 องศาเซลเซียส ตามข้อมูลจาก Copernicus ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบสภาพภูมิอากาศของยุโรป

รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่หลายสิบจุดทางตะวันตกและภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Northwest) เผชิญความร้อนสูงเท่า ๆ กัน หรือความร้อนระดับที่ทำลายสถิติเก่า ทั้งยังมีการคาดหมายว่า ระดับความร้อนที่ว่าจะดำเนินต่อไปตลอดสัปดาห์นี้ด้วย

เจ้าหน้าที่เขตปกครองมัลท์โนมาห์เคาน์ตี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเริ่มสืบสวนการเสียชีวิตของประชาชน 4 คนซึ่งต้องสงสัยว่ามีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับภาวะอากาศร้อนจัดเมื่อวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ โดย 3 ใน 4 นั้นเป็นคนในพื้นที่เคาน์ตี้นี้และมีอายุ 64, 75 และ 84 ปี ส่วนอีกคนที่เชื่อว่าเสียชีวิตเพราะอากาศที่ร้อนรุนแรงเป็นชายวัย 33 ปีที่ถูกส่งตัวจากนอกพื้นที่มายังยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองพอร์ตแลนด์

ในช่วง 3 วันดังกล่าว อุณหภูมิในพอร์ตแลนด์ทำลายสถิติที่บันทึกรายวันไปแล้ว และ ฮันนาห์ แชนด์เลอร์-คูลีย์ นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า อุณหภูมิที่สูงจัดน่าจะอยู่ต่อไปจนถึงช่วงเย็นของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าที่กรุงวอชิงตัน 3 ชั่วโมง

เมื่อปี 2021 ภูมิภาค Pacific Northwest ประสบเหตุการณ์อุณหภูมิพุ่งสูงกว่าคาดในช่วงเกิดคลื่นความร้อน จนทำให้มีประชาชนในรัฐโอเรกอนและรัฐวอชิงตัน รวมทั้งในพื้นที่ตะวันตกของแคนาดา ราว 600 คนเสียชีวิต

ประเด็นที่น่ากังวลหนักก็คือเรื่องของระยะเวลาที่อุณหภูมิในภูมิภาคดังกล่าวปรับขึ้นสูง เพราะบ้านส่วนมากไม่มีระบบทำความเย็นในบ้าน และอากาศที่ร้อนเกือบทั้งวันทั้งคืนทำให้ผู้คนไม่สามารถรู้สึกเย็นขึ้นได้แม้ในตอนกลางคืน โดยปัญหาที่ว่านี้หนักหน่วงมากขึ้นในพื้นที่ในเมืองที่สิ่งก่อสร้างและทางเท้าที่ทำด้วยคอนกรีตกลายมาเป็นตัวกักเก็บความร้อนอย่างดี

เด็กกลุ่มหนึ่งเข้ามาหลบร้อนใต้ร่มหลังถูกเตือนให้ใส่รองเท้าก่อนจะเดินลงไปที่หาดของทะเลสาบคาสตาอิก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางสภาพอากาศแดดแรง เพื่อไม่ให้เท้าถูกความร้อนลวก เมื่อ 8 ก.ค. 2567
เด็กกลุ่มหนึ่งเข้ามาหลบร้อนใต้ร่มหลังถูกเตือนให้ใส่รองเท้าก่อนจะเดินลงไปที่หาดของทะเลสาบคาสตาอิก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางสภาพอากาศแดดแรง เพื่อไม่ให้เท้าถูกความร้อนลวก เมื่อ 8 ก.ค. 2567

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังเตือนว่า อาการเจ็บป่วยและบาดเจ็บที่เกิดจากปัญหาอากาศร้อนเกิดจากการสั่งสมเป็นเวลาติดต่อกันตั้งแต่หนึ่งวันไปจนถึงหลายวันด้วย

ในพื้นที่ทะเลทรายทางตะวันออกของแคลิฟอร์เนีย มีการบันทึกระดับอุณหภูมิสูงถึง 53.3 องศาเซลเซียส (128 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ ที่อุทยานแห่งชาติเดธแวลลีย์ (Death Valley National Park) ซึ่งผู้มาเที่ยวชมรายหนึ่งเสียชีวิตในวันเสาร์เพราะอากาศร้อนจัดและอีกคนถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลด้วยสาเหตุเดียวกัน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อุทยาน

แถลงการณ์ของอุทยานแห่งชาตินี้ระบุว่า ทั้งสองคนนี้เป็นสมาชิกกลุ่มนักเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ขณะที่สภาพอากาศร้อนจัด โดยอีก 4 คนได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ เพราะเฮลิคอปเตอร์แพทย์ฉุกเฉินไม่สามารถเข้ามารับตัวได้ เนื่องจากไม่สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัยหากอุณหภูมิสูงกว่า 48.8 องศาเซลเซียส (120 องศาฟาเรนไฮต์)

นอกจากสถานการณ์ทั้งหมดนี้แล้ว มีการคาดว่า สภาพอากาศร้อนสุดโต่งจะดำเนินต่อไปอีกระยะ อย่างเช่นในพื้นที่หุบเขาเดธแวลลีย์ (Death Valley) ที่น่าจะพุ่งแตะระดับ 54.4 องศาเซลเซียสในกลางสัปดาห์นี้

นอกจากจะเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนอกรัฐอลาสกา เดธแวลลีย์ยังเป็นพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมสุดโต่งที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและเป็นจุดที่มีอากาศร้อนที่สุดในช่วงฤดูร้อนด้วย โดยสถิติอุณหภูมิโลกที่มีการบันทึกไว้ได้อย่างเป็นทางการคือ 56.67 องศาเซลเซียส (134 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 1913 ที่อุทยานแห่งชาตินี้เอง แม้ผู้เชี่ยวชาญบางรายจะแย้งผลการตรวจวัดที่ว่ากันแล้ว และยืนยันว่า อุณหภูมิสูงที่สุดนั้นคือ 54.4 องศาเซลเซียส (130 องศาฟาเรนไฮต์) ที่บันทึกได้ที่นั่น เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ต่างหาก

รายงานสภาพอากาศร้อนจัดที่จุดอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมายังมีที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา ที่บันทึกอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของที่นั่นได้เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งก็คือ 46.1 องศาเซลเซียส (115 องศาฟาเรนไฮต์)

  • ที่มา: เอพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG