ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยดาร์ทมัธ (Dartmouth College) ในสหรัฐฯ เพิ่งเปิดตัวผลการศึกษาล่าสุดซึ่งระบุว่าเป็น “ตัวที่จะมาช่วยพลิกเกมในการต่อสู้ทางคดีที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ” โดยนำเสนอพื้นฐานการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยสรุปได้ว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนของประเทศใดประเทศหนึ่งส่งผลทำลายเศรษฐกิจของอีกประเทศหนึ่งมากน้อยเพียงใด
การศึกษาวิจัยดังกล่าว พบว่า กลุ่มผู้ก่อมลพิษหนักกลุ่มเล็ก ๆ ได้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการปล่อยมลพิษจนทำให้เกิดโลกของเราร้อนขึ้น โดยกลุ่มประเทศที่อยู่ทางซีกโลกใต้ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่นกว่าและมีสภาพเศรษฐกิจที่ยากจนกว่าส่วนอื่น ๆ ของโลก คือ ผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุด
สหรัฐฯ และจีนในฐานะประเทศผู้ส่งออกชั้นนำสองรายของโลก ต่างเป็นผู้ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ทั่วโลกรายละกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ระหว่างปี ค.ศ. 1990-2014 ขณะที่ รัสเซีย อินเดีย และบราซิลก่อให้เกิดการสูญเสียในเรื่องนี้ประเทศละมากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ในการศึกษานี้ มีการวิเคราะห์ที่ช่วยแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสียหายอันเกิดจากผู้ปล่อยมลพิษเพียงรายเดียวต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตัวอย่าง 143 ประเทศที่มีข้อมูลในเรื่องนี้ด้วย
จัสติน แมนคิน (Justin Mankin) นักวิจัยอาวุโสในการศึกษานี้กล่าวว่า "งานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นการประเมินที่มีความสำคัญอันชอบด้วยกฎหมายในเรื่องของความเสียหายทางด้านการเงินที่แต่ละประเทศได้รับ อันเนื่องมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศอื่น ๆ
การวิเคราะห์ที่ว่านี้ใช้การสุ่มตัวอย่าง ‘ค่า’ ทั้งหมด 2 ล้านตัวที่น่าจะเกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศหนึ่งและอีกประเทศหนึ่ง แล้วใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คิดคำนวณ ‘ค่า’ ทั้งหมด 11 ล้านล้านตัว เพื่อหาและคิดจำนวนค่าความไม่แน่นอนตามเหตุและผลออกมา
ทั้งนี้ อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับประเทศใดประเทศหนึ่งได้หลายทาง เช่น ผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลง หรือประสิทธิภาพของแรงงานที่ลดลงเนื่องมาจากภาวะความเครียดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ในทางกลับกัน สำหรับบางประเทศที่มีอากาศเย็นที่อยู่ทางซีกโลกเหนือ อากาศที่อุ่นขึ้นอาจช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชผลได้
ข้อมูลของการวิเคราะห์ระบุด้วยว่า การปล่อยมลพิษในอาณาเขตของสหรัฐฯ ทำให้เม็กซิโกต้องสูญเสียผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึง 79,500 ล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 1990-2014 แต่ผลกระทบที่มีต่อแคนาดานั้น คือ การเพิ่มขึ้นของ GDP ถึง 247,200 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขทั้งหมดนี้ใช้คิดคำนวณจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้วในปี 2010
ในความเป็นจริงนั้น ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนคดีความที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศได้เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยเป็นมากกว่า 1,000คดี แต่คดีส่วนใหญ่นั้นพุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมันและบริษัทต่าง ๆ มากกว่าที่จะพยายามตรึงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปที่ชาติใดชาติหนึ่ง
- ที่มา: รอยเตอร์