ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'ประธานาธิบดีดูเตอร์เต' หวังว่าภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นจะช่วยดึงดูดการค้าและการลงทุนในฟิลิปปินส์


U.S. President Donald Trump shakes hands with Philippines President Rodrigo Duterte as he arrives for the gala dinner marking ASEAN's 50th anniversary in Manila, Nov. 12, 2017.
U.S. President Donald Trump shakes hands with Philippines President Rodrigo Duterte as he arrives for the gala dinner marking ASEAN's 50th anniversary in Manila, Nov. 12, 2017.

นักวิเคราะห์เชื่อว่าการที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียน จะไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

please wait

No media source currently available

0:00 0:04:09 0:00

นักวิเคราะห์มองว่า ในฐานะประธานสมาคมอาเซียนปีนี้ และจากการเดินทางเยี่ยมเยือนประเทศต่างๆ ในเอเชียในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาประธานาธิบดีดูเตอร์เตได้ปรับปรุงภาพลักษณ์ของตน และทำให้ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศมากขึ้น

ในช่วงสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีดูเตอร์เตดูเหมือนจะตกลงเพื่อซ่อนจุดยืนที่แตกต่างบางอย่าง เช่น การที่ผู้นำสหรัฐฯ ไม่หยิบยกประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนหรือวิสามัญฆาตกรรมจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของผู้นำฟิลิปปินส์ขึ้นมา

และขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีดูเตอร์เตก็ได้บอกปัดอย่างสุภาพต่อข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะช่วยเป็นคนกลางสำหรับกรณีพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ ระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ซึ่งมีฟิลิปปินส์รวมอยู่ด้วย

เมื่อปีที่แล้ว ผู้นำฟิลิปปินส์ได้แสดงท่าทีเป็นมิตรกับจีนมากขึ้น และรัฐบาลกรุงปักกิ่งก็ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกสำหรับข้อขัดแย้งในทะเลจีนใต้แบบทวิภาคี

ชาวฟิลิปปินส์บางคนคาดหวังว่า ประธานาธิบดีดูเตอร์เตจะใช้ประโยชน์จากภาพพจน์ที่ดีขึ้นในสายตาต่างประเทศ เพื่อช่วยดึงดูดการค้าและการลงทุนไปยังฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น

โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ความสนับสนุนทางเศรษฐกิจมูลค่า 5,800 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคมูลค่า 167,000 ล้านดอลลาร์ที่ฟิลิปปินส์ต้องการ ส่วนจีนก็ประกาศความช่วยเหลือ และการลงทุน 24,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ฟิลิปปินส์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า ตัวเลขการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ น่าจะเป็นผลมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ที่ระดับ 6.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่แล้ว บวกกับค่าแรงที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และโอกาสของการลดต้นทุนจากระบบโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น ทางรถไฟและท่าเรือของฟิลิปปินส์มากกว่า

โดยเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการลงทุนสุทธิในประเทศของฟิลิปปินส์นั้น เพิ่มขึ้นถึง 40.7 เปอร์เซ็นต์

ผลการสำรวจในขณะนี้แสดงว่า ราวสองในสามของชาวฟิลิปปินส์ยอมรับการทำงานของประธานาธิบดีดูเตอร์เต ถึงแม้จะมีการใช้ถ้อยคำที่เผ็ดร้อน และมีข้อกล่าวหาเรื่องวิสามัญฆาตกรรมก็ตาม

โดยเหตุผลส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่อัตราอาชญากรรมลดลง และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียน ก็เป็นโอกาสให้ผู้นำของอาเซียนได้รู้จักกับประธานาธิบดีดูเตอร์เตมากขึ้นด้วย

ถึงกระนั้นก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า แม้ผู้นำฟิลิปปินส์จะพยายามพูดในสิ่งที่อยู่ในใจ อย่างเช่นเรื่องความสำเร็จของการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธชาวมุสลิมที่เมืองมาราวีเมื่อเร็วๆ นี้ และผลกระทบในแง่บวกจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าการทำหน้าที่ประธานสมาคมอาเซียนของประธานาธิบดีดูเตอร์เตในปีนี้ คงจะเหมือนกับในปีที่ผ่านๆ มา นั่นคือการไม่หยิบยกประเด็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ขึ้นมาหารืออย่างจริงจัง

โดยนาย Carl Baker ผู้อำนวยการของ Pacific Forum CSIS ที่รัฐฮาวายคาดว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมอาเซียนปีนี้ ก็คือจีนกับอาเซียนคงจะกลับมาหารือเรื่อง Code of Conduct ในทะเลจีนใต้ต่อไป ภายใต้ความเข้าใจที่ว่า การขบแก้กรณีพิพาทเรื่องดินแดนนี้จะมีโอกาสประสบผลสำเร็จได้มากที่สุดด้วยการเจรจาแบบทวิภาคี

XS
SM
MD
LG