ฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ลาดตระเวนร่วมใกล้ไต้หวัน

กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ออกลาดตระเวนร่วมทั้งทางทะเลและทางอากาศ เมื่อวันอังคาร บริเวณน่านน้ำใกล้กับไต้หวัน ตามการเปิดเผยของทางการฟิลิปปินส์ นับเป็นท่าทีที่อาจโหมกระพือความตึงเครียดกับจีน ตามรายงานของรอยเตอร์

ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า เส้นทางการลาดตระเวนร่วมระหว่างฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ จะเริ่มต้นที่เกาะมาวูลิส ทางตอนเหนือ ซึ่งห่างออกไปจากไต้หวันราว 100 กิโลเมตร และสิ้นสุดที่ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ที่รัฐบาลมะนิลาใช้เรียกพื้นที่ทะเลจีนใต้ในบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEZ ของตน

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า การลาดตระเวนทางอากาศและทางทะเลเป็นเวลา 3 วัน ถือเป็น “ความริเริ่มที่สำคัญ” ในการเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างสองประเทศ และว่า “ผมมีความมั่นใจว่าสิ่งนี้ ... จะก่อให้เกิดความมั่นคงและเสถียรภาพแก่ประชาชนของพวกเรา”

ข่าวดังกล่าวมีขึ้น 1 วันหลังจากผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวที่ฮาวายว่าสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ “เลวร้าย” ยิ่งขึ้น โดยกองทัพจีนขยับเข้าใกล้แนวชายฝั่งของฟิลิปปินส์มากขึ้นเรื่อย ๆ

การลาดตระเวนครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้แก่รัฐบาลปักกิ่ง และเป็นสัญญาณในการยกระดับการทหาร ท่ามกลางสิ่งที่เรียกว่า “กิจกรรมอันก้าวร้าว” ของจีนบริเวณทะเลจีนใต้ อันเป็นน่านน้ำเชิงยุทธศาสตร์ ที่ถูกมองว่าอาจเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน

โฆษกสถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ หลิว เผิงหยู กล่าวว่า “จีนเชื่อว่าความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงระหว่างประเทศต้องนำมาซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ความร่วมมือเหล่านั้นไม่ควรเป็นการยกระดับความขัดแย้งและบั่นทอนความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ และไม่เป็นการมุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม” ขณะที่สถานทูตจีนประจำกรุงมะนิลาไม่ให้ให้ความเห็นในช่วงเวลาที่รอยเตอร์รายงานข่าวนี้

ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ยกระดับขึ้นในปีนี้ ทั้งการตัดสินใจให้กองทัพสหรัฐฯ สามารถใช้ฐานทัพในฟิลิปปินส์เพิ่มอีก 4 แห่ง ซึ่งรวมถึงฐานทัพเรือที่อยู่ไม่ไกลจากไต้หวัน และการซ้อมรบร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

• ที่มา: รอยเตอร์