ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ไบเดน-ยูน บรรลุข้อตกลง ‘เกาหลีใต้จะไม่ติดอาวุธนิวเคลียร์’


President Joe Biden and South Korea's President Yoon Suk Yeol shake hands during a news conference in the Rose Garden of the White House Wednesday, April 26, 2023, in Washington. (AP Photo/Andrew Harnik)
President Joe Biden and South Korea's President Yoon Suk Yeol shake hands during a news conference in the Rose Garden of the White House Wednesday, April 26, 2023, in Washington. (AP Photo/Andrew Harnik)

เกาหลีใต้ยอมตกลงที่จะไม่เดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อแลกกับแผนงานรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ ที่สหรัฐฯ นำเสนอเพื่อรับมือกับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ​และประธานาธิบดียูน ซุก ยอลของเกาหลีใต้ ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเพื่อกระชับความร่วมมือในการป้องปรามการยกระดับด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และฉลองวาระครบรอบ 70 ปีของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างกัน รวมทั้งเพื่อหารือความสัมพันธ์ในอนาคตของพันธมิตรทั้งสองด้วย

APTOPIX Biden US South Korea
APTOPIX Biden US South Korea

รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "ปฏิญญาวอชิงตัน" หรือ "Washington Declaration" ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า จะช่วยส่งเสริมเกาหลีใต้ด้านข้อมูลเชิงลึกและเปิดรับฟังรัฐบาลกรุงโซลในการวางแผนของฝ่ายอเมริกัน หากเกิดเหตุฉุกเฉินด้านนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ผ่านหน่วยงานหารือร่วมกันที่ชื่อว่า U.S.-Republic of Korea Nuclear Consultative Group (NCG)

Biden US South Korea
Biden US South Korea

ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมหลังการหารือของสองผู้นำที่ทำเนียบขาว ปธน.ไบเดน พูดถึงข้อตกลงปี 1953 ที่สหรัฐฯ ร่วมลงนามหลังการสิ้นสุดของสงครามเกาหลี ที่มีเนื้อหาสัญญาว่า สหรัฐฯ จะช่วยเกาหลีใต้ปกป้องตนเอง โดยเฉพาะจากเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า “สนธิสัญญาด้านกลาโหมที่เรามีร่วมกันนั้นแข็งแกร่งดั่งเหล็กหุ้มเกราะ และหมายรวมถึงพันธกรณีของเราที่จะขยายการป้องปราบออกไปด้วย”

ปธน.ยูน ซึ่งพูดผ่านล่ามในระหว่างการแถลงข่าว เรียกปฏิญญาวอชิงตัน ว่าเป็น “การขยับขยายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ของยุทธศาสตร์ป้องปรามที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น” ซึ่งเป็นคำที่หมายถึงระบบป้องกันปรมาณูของอเมริกา (American nuclear umbrella) ที่มีเนื้อหาระบุว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้การโจมตีใด ๆ ก็ตามต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนของตน “ที่รวมความถึงทั้งการอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์และที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์”

South Korean President Yoon Suk Yeol speaks during a news conference with US President Joe Biden in the Rose Garden of the White House in Washington, DC, on April 26, 2023. (Photo by Jim WATSON / AFP)
South Korean President Yoon Suk Yeol speaks during a news conference with US President Joe Biden in the Rose Garden of the White House in Washington, DC, on April 26, 2023. (Photo by Jim WATSON / AFP)

ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวว่า “ประเทศของเราทั้งสองได้ตกลงที่จะมีการหารือกันในระดับประธานาธิบดีแบบทวิภาคีทันที หากเกิดเหตุการณ์ที่เกาหลีเหนือโจมตีด้วยนิวเคลียร์ และสัญญาที่จะตอบโต้อย่างรวดเร็ว อย่างหนักจนเกินต้าน และอย่างเด็ดขาด ด้วยการใช้กำลังจากเหล่าพันธมิตรอย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึง อาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ด้วย”

ทั้งนี้ ก่อนหน้าการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของปธน.ยูน ไม่มีผู้นำเกาหลีใต้เยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการมากว่าหนึ่งทศวรรษแล้ว ขณะที่ในเวลานี้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนเเรงขึ้น ท่ามกลางการสะสมอาวุธประเภทขีปนาวุธและระเบิดทำลายล้างของกองทัพรัฐบาลเปียงยาง

สก็อตต์ สไนเดอร์ ผู้อำนวยการโครงการนโยบายสหรัฐฯ-เกาหลี จาก Council on Foreign Relations ให้ความเห็นกับ วีโอเอ ว่า ปธน.ไบเดนนั้นกำลังพยายามแสดงให้เห็นว่า คำสัญญาที่จะช่วยปกป้องเกาหลีใต้ของตนนั้น “มีความน่าเชื่อถือและแข็งแกร่งดุจหินผา” และการที่เกาหลีใต้มีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องนิวเคลียร์มากขึ้นนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพื่อให้กรุงโซลรู้สึกอุ่นใจในภาวะที่ประเทศมีความเปราะบางเพราะท่าทีของเกาหลีเหนือ

ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลปธน.ไบเดน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะจัดตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า U.S.-Republic of Korea Nuclear Consultative Group (NCG) ขึ้นมาเป็นกลไกเพื่อการปรึกษาหารือในระดับทวิภาคีที่เน้นเรื่องของนิวเคลียร์และประเด็นการวางแผนยุทธศาสตร์ รวมทั้งเพื่อให้เกาหลีใต้เข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการวางแผนงานรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ

โก มยอง-ฮยุน นักวิชาการจาก Institute for Policy Studies ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองแนวอนุรักษ์นิยมที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล บอกกับ วีโอเอ ว่า เมื่อพิจารณาแล้วว่า สหรัฐฯ จะไม่นำอาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งในคาบสมุทรเกาหลีดังที่มีหลายฝ่ายหวัง การจัดตั้ง NCG คือ ทางเลือกถัดไปที่ดีที่สุด เพราะกลไกนี้เป็นเหมือนสิ่งที่พันธมิตรนาโต้ใช้ในการนำส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปทั่วยุโรปในช่วงสงครามเย็น

นอกจากนั้น โก ยังมองว่า การที่สหรัฐฯ จะส่งเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์มาแวะเวียนในภูมิภาคเกาหลีเป็นประจำ “เป็นเหมือนการบอกเป็นนัย ๆ ว่า เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์จะมีอยู่บริเวณนี้(เพื่อเกาหลีใต้)” ด้วย โดยเรื่องนี้น่าจะมีการหารือในรายละเอียดระหว่างการประชุมครั้งหน้าระหว่างสองพันธมิตรนี้

  • ที่มา: วีโอเอ

เกี่ยวข้อง

XS
SM
MD
LG