ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วิเคราะห์จุดอ่อนในความเป็นพันธมิตร 70 ปี สหรัฐฯ-เกาหลีใต้


Biden-Yoon
Biden-Yoon

ในวันพุธนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับการเยือนของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความเป็นพันธมิตรร่วมของสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ซึ่งดำเนินมาสู่ปีที่ 70 กำลังเผชิญกับสิ่งท้าทายใหม่ๆ หลายด้าน

ในช่วงที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณคาบสมุทรเกาหลีเป็นเหมือนหนังที่ถูกฉายซ้ำ เมื่อเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธ ซึ่งเป็นการยั่วยุ และตามมาด้วยการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้

ตลอด 70 ปีที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เป็นพันธมิตรกัน ภาพเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และสถานการณ์ใหม่ ๆ พุ่งตรงไปเพื่อทดสอบความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน

โดยประเด็นที่สำคุญที่สุดก็คือ เกาหลีใต้จะมั่นใจในสหรัฐฯได้หรือไม่ว่าจะร่วมปกป้องเกาหลีใต้หากถูกโจมตี

ขณะนี้ เกาหลีเหนือมีศักยภาพที่จะสร้างภัยคุกคามต่อสหรัฐฯได้ถึงแผ่นดินใหญ่อเมริกัน จึงเกิดคำถามขึ้นว่ารัฐบาลกรุงวอชิงตันจะเข้าแทรกแซงความขัดแย้งของสองเกาหลีหรือไม่

FILE PHOTO: A view of a test launch of a new solid-fuel intercontinental ballistic missile (ICBM) Hwasong-18
FILE PHOTO: A view of a test launch of a new solid-fuel intercontinental ballistic missile (ICBM) Hwasong-18

คำถามดังกล่าวยังก่อให้เกิดเรื่องเร่งด่วน ที่ว่าประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล เสนอว่า เกาหลีใต้อาจจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาเอง หากว่าความกังวลด้านความมั่นคงของรัฐบาลตนไม่ได้รับการตอบรับ

รัฐบาลกรุงวอชิงตันพยายามสร้างความมั่นใจ ด้วยการส่งยุทโธปกรณ์ที่ทรงอานุภาพระดับต้น ๆ ในการซ้อมรบ ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัฐบาลโซลต้องการมากกว่านั้น ตามทัศนะของ นักวิเคราะห์ เจนนี ทาวน์ แห่งสถาบัน สติมสัน เซ็นเตอร์ (Stimson Center)

เธอกล่าวว่าเกิดคำถามว่าสิ่งที่สหรัฐฯ แสดงออกเพียงพอแล้วหรือไม่ “ดิฉันมั่นใจว่าเกาหลีเหนือจะยังคงมุ่งหน้าพัฒนาขีปนาวุธที่ยิงไกลข้ามทวีป ... คิดว่าจะมีการเรียกร้องต่อไป แม้ว่าเกิดความซาบซึ้งใจที่สหรัฐฯ ทุ่มเทให้กับประเด็นนี้”

อีกหัวข้อหนึ่งที่สร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ คือยูเครน

แม้ว่าเกาหลีใต้จะเป็นประเทศที่สำคัญประเทศหนึ่งที่ผลิตอาวุธส่องออก แต่รัฐบาลกรุงโซลกล่าวว่า ไม่สามารถแสดงบทบาทติดอาวุธโดยตรงให้กับยูเครน เนื่องจากขัดกับกฎหมายภายในประเทศ

FILE - South Korean army soldiers arrange 155mm howitzer shells during a military exercise in Goseong, South Korea, on April 4, 2016.
FILE - South Korean army soldiers arrange 155mm howitzer shells during a military exercise in Goseong, South Korea, on April 4, 2016.

เกาหลีใต้จึงได้แต่ช่วยยูเครนในทางอ้อม ด้วยการอนุมัติการขายอาวุธ เช่น รถถังให้กับโปแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ช่วยติดอาวุธให้กับยูเครน

จุดตึงเครียดในประเด็นเกี่ยวกับยูเครนถูกเปิดเผยผ่านการแอบนำเอกสารลับของสหรัฐฯ มาเปิดเผย ซึ่งข้อมูลสะท้อนว่า อเมริกาแอบสอดแนมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้

แม้รัฐบาลกรุงโซลไม่ให้ความสำคัญกับข่าวการที่ฝ่ายตนถูกสหรัฐฯสอดแนม แต่ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากอาจรู้สึกไม่พอใจ

อาจารย์ปาร์ก วอนกอน แห่งมหาวิทยาลัยอีฮวา กล่าวว่า “เนื่องจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯเป็นพันธมิตรกัน และเรื่องเอกสารรั่วไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ ทุกคนทราบดีว่าอเมริกาสนใจในประเด็นนี้หรือไม่ เพียงแค่โทรหากัน ฝ่ายเกาหลีใต้จะยินดีตอบคำถาม”

ขณะนี้ประธานาธิบดียูนแห่งเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับคะแนนนิยมในตัวเขาที่ลดลง นักวิเคราะห์จึงกล่าวว่าเขาไม่มีทางเลือกมากในการเดินนโยบายต่างประเทศ ขณะที่เขาหาจุดยืนให้เกาหลีใต้ ให้ใกล้เคียงกับท่าทีของโลกตะวันตก

ในการเยือนกรุงวอชิงตันครั้งนี้ ประธานาธิบดียูนจะพบกับฝ่ายสหรัฐฯ ในบรรยากาศที่น่าจะชื่นมื่น เมื่อเขาร่วมฉลองความเป็นพันธมิตรกับอเมริกาครบรอบ 70 ปี ซึ่งเป็นมิตรภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากคนทั้งสองประเทศ

  • ที่มา: วีโอเอ
XS
SM
MD
LG