สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธสองลูกในวันจันทร์ สองวันหลังจากที่เพิ่งงทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป หรือ ICBM (intercontinental ballistic missile) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
สื่อของทางการเกาหลีเหนือยืนยันการทดสอบขีปนาวุธสองลูกจากเครื่องยิงจรวดแบบหลายลำกล้องไปตกในน่านน้ำฝั่งตะวันออก โดยมีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 395 กม. และ 337 กม. ตามลำดับ
ด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นรายงานว่า ขีปนาวุธสองลูกถูกยิงขึ้นไปที่ระดับความสูงราว 100 กม. และ 50 กม. เหนือพื้นดิน และเดินทางไกลประมาณ 350-400 กม.
เมื่อวันเสาร์ เกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป หรือ ICBM โดยระบุว่า เป็นการยกระดับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ พร้อมขู่ว่าจะเพิ่มความรุนแรงของการทดสอบอาวุธยิ่งขึ้นเพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้
ทางด้านกองทัพสหรัฐฯ ตอบโต้การทดสอบ ICBM ของกรุงเปียงยางเมื่อวันเสาร์ ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงไปร่วมซ้อมรบกับเครื่องบินรบของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในวันอาทิตย์ เพื่อแสดงศักยภาพทางทหารของชาติพันธมิตร
การทดสอบจรวด ICBM เมื่อวันเสาร์ ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในปีนี้ของเกาหลีเหนือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้นำคิม จอง อึน กำลังใช้การซ้อมรบของสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ เป็นข้ออ้างในการสาธิตศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของตนเอง เป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับชาติตะวันตก
สื่อของทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานว่า การทดสอบครั้งนี้มีขึ้นเพื่อพิสูจน์และแสดงความพร้อมด้านการทหารของกรุงเปียงยาง โดยขีปนาวุธฮวาซอง-15 (Hwasong-15) สามารถขึ้นไปแตะระดับความสูงที่ 5,770 กม. และไปไกลราว 990 กม. โดยใช้เวลาเดินทาง 67 นาทีก่อนที่จะลอยไปตกในน่านน้ำระหว่างญี่ปุ่นกับคาบสมุทรเกาหลี
สื่อดังกล่าวอ้างว่า การทดสอบครั้งนี้ใช้วิธียิงแบบมุมชันกว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากยิงในวิถีปกติจะไปได้ไกลกว่ามากและสามารถเดินทางไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ และถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในการโจมตีกองกำลังของศัตรู "อย่างรุนแรงที่สุดโดยที่มิอาจตอบโต้ได้"
ทั้งนี้ ขีปนาวุธฮวาซอง-15 คือหนึ่งในขีปนาวุธแบบ ICBM สามแบบที่เกาหลีเหนือมีอยู่ ซึ่งล้วนใช้เชื้อเพลิงแบบเหลว โดยนักวิเคราะห์ด้านขีปนาวุธแห่ง Korea Aerospace University เชื่อว่า ขีปนาวุธในการทดสอบเมื่อวันเสาร์เป็นแบบฮวาซอง-15 ที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้ว ซึ่งข้อมูลจากเกาหลีเหนือชี้ว่าสามารถเดินทางได้ไกลกว่าแบบเดิม
และเมื่อวันอาทิตย์ สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B และเครื่องบินรบอื่น ๆ ไปซ้อมรบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้บริเวณคาบสมุทรเกาหลี โดยกองทัพเกาหลีใต้มีแถลงการณ์ว่า การซ้อมรบครั้งนี้คือการรับรองถึงพันธกิจที่แน่วแน่ของรัฐบาลวอชิงตันในการปกป้องเกาหลีใต้
ก่อนหน้านี้ กรุงเปียงยางขู่ว่าจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าว "แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน" ต่อการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ที่เปียงยางมองว่าเป็นการคุกคาม
คิม โย จอง น้องสาวของผู้นำคิม มีแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ กล่าวหาสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ว่า "แสดงความโลภอันตรายอย่างเปิดเผย และพยายามสร้างความได้เปรียบทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี" พร้อมเตือนว่า "เกาหลีเหนือจะจับตามองการกระทำของศัตรูอย่างใกล้ชิดและตอบโต้อย่างรุนแรง"
โฆษกสภาความมั่นคงและชาติสหรัฐฯ เอเดรียน วัตสัน กล่าวว่า สหรัฐฯ จะใช้ทุกแนวทางที่มีเพื่อรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองอเมริกันในสหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ขณะที่สภาความมั่นคงและชาติเกาหลีใต้ กล่าวว่า จะพยายามเสริมความสามารถในการตอบโต้ทางทหารต่อความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งร่วมประชุมกันที่นครมิวนิค เยอรมนี ตกลงเพิ่มความร่วมมือสามฝ่ายเพื่อรับมือภัยคุกคามบนคาบสมุทรเกาหลีเช่นกัน
- ที่มา: เอพี, รอยเตอร์