ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สมาชิกนาโต้ กระชับสัมพันธ์ชาติอินโด-แปซิฟิก


(จากซ้ายไปขวา) รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียริชาร์ด มาลส์ นายกฯ ญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกฯ นิวซีแลนด์ คริสโตเฟอร์ ลักซอน และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก-ยอล ขณะเข้าร่วมเวทีพูดคุยในการประชุมสุดยอดผู้นำ NATO วันที่ 11 กรกฎาคม 2024 ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ (ที่มา: AP)
(จากซ้ายไปขวา) รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียริชาร์ด มาลส์ นายกฯ ญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกฯ นิวซีแลนด์ คริสโตเฟอร์ ลักซอน และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก-ยอล ขณะเข้าร่วมเวทีพูดคุยในการประชุมสุดยอดผู้นำ NATO วันที่ 11 กรกฎาคม 2024 ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ (ที่มา: AP)

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เมื่อวันพฤหัสบดี คือการหารือกับผู้นำจากประเทศที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญจากภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อหารือถึงการรับมือภัยคุกคามในภูมิภาค

ประเทศสมาชิก NATO ได้ประชุมกับผู้นำของออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ เพื่อหารือการพัฒนาแผนและยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในภูมิภาคแปซิฟิก ที่รวมถึงการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและวัตถุดิบจากจีนไปยังรัสเซียเพื่อทดแทนความสูญเสียจากการรบกับยูเครน

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ระบุว่าการมาร่วมประชุมของชาติหุ้นส่วนจากอินโด-แปซิฟิก ส่งสัญญาณไปยังจีนว่าพันธมิตรประชาธิปไตยจะยืนหยัดเพื่อหลักนิติรัฐ

เจสัน อิสราเอล ผู้อำนวยการอาวุโสด้านนโยบายกลาโหมของจากสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวกับวีโอเอว่า “NATO รับรู้ว่าภัยคุกคามจากอินโด-แปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) หรือสาธารณรัฐประชาชนจีนที่สนับสนุนรัสเซียในการรุกรานยูเครน (คือสิ่งที่) พวกเราหลบเลี่ยงไม่ได้”

แถลงการณ์ที่ชาติสมาชิก NATO ร่วมลงนาม เรียกจีนว่าเป็น “ผู้ส่งเสริมที่เด็ดเดี่ยว” ของสงครามรัสเซียในยูเครน และเรียกร้องให้จีนเลิกสนับสนุนรัฐบาลกรุงมอสโก

แถลงการณ์ระบุว่า “สาธารณรัฐประชาชนจีนไม่สามารถสนับสนุนสงครามที่ใหญ่ที่สุดในช่วงประวัติศาสตร์สั้น ๆ นี้ของยุโรป โดยไม่ได้รับผลกระทบด้านลบต่อผลประโยชน์และชื่อเสียงของตน” ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มพันธมิตรทางทหารกลุ่มนี้ยังแสดงความกังวลถึงแสนยานุภาพทางอากาศและคลังอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลปักกิ่งด้วย

เลขาธิการใหญ่นาโต้ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า การที่จีนสนับสนุนวัสดุที่สามารถใช้ได้ทั้งในด้านพลเรือนและด้านการผลิตอาวุธแก่รัสเซีย ทำให้รัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของยุโรปและ NATO มากขึ้น

สโตลเทนเบิร์กตอบคำถามวีโอเอที่ว่า ถ้อยแถลงเกี่ยวกับจีนนั้นจะมีน้ำหนักมากพอในการป้องปรามจีนจากการสนับสนุนรัสเซียหรือไม่ โดยระบุว่าคำประกาศนี้ “เป็นข้อความที่หนักที่สุดที่พันธมิตร NATO เคยส่งถึงจีน ในกรณีการช่วยเหลือรัสเซียในสงครามอันมิชอบด้วยกฎหมายต่อยูเครน”

อย่างไรก็ดี ชาติสมาชิก NATO อย่างฮังการี ก็ออกมาแสดงความกังวลว่า แถลงการณ์ที่ออกมาอาจทำให้พันธมิตรทางทหารนี้ถูกมองว่ามีจุดยืนต่อต้านจีน โดยเปเตอร์ ซิยาร์โท รัฐมนตรีต่างประเทศของฮังการี กล่าวว่า “NATO เป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง…เราทำให้มันเป็นกลุ่มก้อนของการต่อต้านจีนไม่ได้”

แบรดลีย์ โบว์แมน ผู้อำนวยการอาวุโสจาก Foundation for Defense of Democracies' Center on Military and Political Power กล่าวว่า การเรียกร้องไปยังจีนนั้นถือเป็นสิ่งที่ NATO ควรทำนานแล้ว

โบว์แมนกล่าวว่า “ชาวยุโรปกำลังตายในยุโรป ในสงครามการรุกรานจากเครมลิน ด้วยการสนับสนุนของอิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน”

จีนยืนกรานว่าไม่ได้ให้การสนับสนุนทางทหารแก่รัสเซีย แม้ว่าจะยังคงมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่เข้มแข็งระหว่างกันก็ตาม

เมื่อวันจันทร์ หลิน เจี้ยน โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวหาว่า NATO “ข้ามเส้นแดน ขยายอาณัติของตนเอง เอื้อมมือไปเกินพื้นที่ป้องกันของตัวเอง และโหมกระพือการเผชิญหน้า”

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG