ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศในวันพุธว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มกำลังด้านการทหารในยุโรป ซึ่งรวมถึงการเพิ่มจำนวนเรือพิฆาตที่ประจำการในสเปน และการส่งทหารไปประจำการในประเทศอื่น ๆ
ปธน.ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างการร่วมประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ที่กรุงมาดริด สเปน กล่าวว่า สหรัฐฯ จะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ถาวรของกองบัญชาการทหารบกที่ 5 ที่โปแลนด์ เพิ่มจำนวนทหาร 3,000 คน และเจ้าหน้าที่อีก 2,000 คน หมุนเวียนประจำการในโรมาเนีย รวมทั้งส่งเครื่องบินรบไอพ่น เอฟ-35 อีกสองลำไปประจำที่อังกฤษ
ปธน.ไบเดน กล่าวว่า "ผมขอประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐฯ จะเสริมกำลังทหารในยุโรปเพื่อตอบรับกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนไป" และว่า "เมื่อต้นปีนี้ เราได้เพิ่มกำลังทหารในยุโรปอีก 20,000 คนเพื่อตอบโต้ต่อท่าทีก้าวร้าวของรัสเซีย ซึ่งทำให้ขณะนี้มีทหารอเมริกันประจำการในยุโรปแล้ว 100,000 คน"
ปธน.ไบเดน กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ จะปรับกำลังทหารในยุโรปโดยอ้างอิงตามภัยคุกคามที่เกิดขึ้นและการปรึกษาใกล้ชิดกับพันธมิตรของสหรัฐฯ
นาโต้เผยกรอบยุทธศาสตร์ใหม่
ในวันพุธ องค์การนาโต้ได้อนุมัติกรอบยุทธศาสตร์ใหม่ ( Strategic Concept ) ที่มุ่งเป้ารับมือภัยคุกคามจากรัสเซียและจีน โดยมีการระบุว่ารัสเซียคือ "ภัยคุกคามโดยตรงที่สำคัญที่สุด" และยังเป็นครั้งแรกที่มีการพูดถึงความท้าทายจากจีนที่มีต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ขององค์การนาโต้ด้วย
ทั้งนี้ กรอบยุทธศาสตร์ของนาโต้ คือการประเมินความท้าทายด้านความมั่นคง และจัดทำโครงร่างปฏิบัติการทางทหารและการเมืองของประเทศสมาชิก โดยกรอบยุทธศาสตร์ฉบับสุดท้ายจัดทำขึ้นในการประชุมสุดยอดนาโต้ที่กรุงลิสบอนเมื่อปีค.ศ. 2010 ซึ่งมีข้อความระบุว่า "นาโต้มิได้สร้างภัยคุกคามต่อรัสเซีย ในทางตรงกันข้าม นาโต้ต้องการเห็นความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่แท้จริงระหว่างนาโต้กับรัสเซีย"
ที่ประชุมสุดยอดนาโต้ยังได้ตกลงเพิ่มการสนับสนุนให้แก่ยูเครนเพื่อป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ เลขาธิการองค์การนาโต้ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า จะเพิ่มจำนวนทหารที่เตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินอีก 7 เท่าเป็นมากกว่า 300,000 คน ท่ามกลางสถานการณ์ที่เรียกว่า "วิกฤติด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง"
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ปรากฎตัวต่อที่ประชุมองค์การนาโต้ผ่านวิดีโอออนไลน์ เรียกร้องอาวุธเพิ่มและเงินช่วยเหลือมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อใช้ในการป้องกันตนเอง
"นี่ไม่ใช่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นสงครามแย่งชิงสิทธิในการบงการในยุโรปว่าระเบียบโลกในอนาคตจะเป็นอย่างไร" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
- ที่มา: วีโอเอ