ปัจจุบันเชื้อแบคทีเรียทูเบอร์คูโลซิสที่ก่อให้เกิดวัณโรคมักระบาดในกลุ่มคนยากจน และกลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัสเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนา ส่วนกลุ่มคนมีอันจะกินมักไม่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้
แต่ในยุโรปราว 250 ปีที่แล้ว กลุ่มคนชั้นสูงในสมัยนั้นติดเชื้อโรควัณโรคที่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตนี้เช่นกัน
ทีมนักวิจัยค้นพบว่าในบรรดาซากมัมมี่ทั้งหมด 26 ตัวที่ค้นพบในโบสถ์ที่ฮังการี่ มีมัมมี่อย่างน้อย 8 ตัวที่พบว่ามีจีโนมของเชื้อแบคทีเรียทูเบอร์คูโลซิส และในมัมมี่ 5 ตัวพบว่ามีเชื้อวัณโรคนี้อยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน
คุณ Mark Pallen หัวหน้าทีมนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Warwick ในประเทศอังกฤษกล่าวว่า การค้นพบนี้ชี้ว่าเป็นเรื่องปกติที่คนในยุคนั้นติดเชื้อวัณโรคมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ในเวลาเดียวกัน
คุณ Pallen กล่าวว่าในปัจจุบัน เราเข้าใจกันว่าผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรคเพียงสายพันธุ์เดียวในแต่ละครั้ง แต่ในการศึกษานี้ ทีมนักวิจัยพบว่าซากมัมมี่หลายตัวติดเชื้อวัณโรคทีเดียวหลายสายพันธุ์ ทีมนักวิจัยค้นพบว่ามีมัมมี่แม่และลูกสาวที่ติดเชื้อวัณโรคหลายสายพันธุ์ด้วยกันทำให้เชื่อว่าติดเชื้อจากกันและกัน
ทีมนักวิจัยสามารถสกัดดีเอ็นเอออกจากตัวอย่างเนื้อเยื่อของมัมมี่ได้อย่างง่ายดาย ทีมงานวิจัยที่นำโดยคุณ Pallen ได้ใช้เทคนิคอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “metagenomics’’ เพื่อค้นหาดีเอ็นเอในตัวอย่างเนื้อเยื่อโดยตรงแทนที่จะใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงแบคทีเรียในห้องทดลองเพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมซึ่งเป็นวิธีที่ยุ่งยากกว่า
ทีมนักวิจัยคิดว่าน่าจะมีคนติดเชื้อวัณโรคจำนวนมากในยุคนั้นซึ่งแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหมู่ประชากร
ในปัจจุบัน ทีมนักวิจัยชี้ว่าการติดเชื้อวัณโรคหลายสายพันธุ์พบในแอฟริกาใต้ที่มีความชุกของโรคเอดส์สูง และมีผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายราย
การติดเชื้อวัณโรคหลายสายพันธุ์ในคราวเดียวกันทำให้การบำบัดด้วยวิธีที่ใช้กันในปัจจุบันไม่ได้ผล
คุณ Pallen ชี้ว่าแพทย์อาจจะต้องมองการวินิจฉัยและบำบัดวัณโรคต่างออกไปจากเดิม เขากล่าวว่าตนไม่คิดว่าผลการศึกษานี้สามารถเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการติดเชื้อและการรักษาวัณโรค แต่น่าจะมีผลต่อความคิดของคนเราต่อการติดเชื้อวัณโรคและจะช่วยให้เราคิดอย่างรอบคอบมากขึ้นก่อนจะสรุปความใดๆ เกี่ยวกับการติดเชื้อวัณโรค
คุณ Pallen กล่าวว่าจากการวิเคราะห์การกลายพันธุ์ของเชื้อวัณโรคในตัวอย่างที่ศึกษาทั้งเก่าและใหม่ชี้ว่า บรรพบุรุษของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคกำเนิดขึ้นเมื่อเกือบหกพันปีที่แล้ว เก่าแก่ย้อนไปถึงยุคโรมันในอดีต
บทความเกี่ยวกับการศึกษาเชื้อวัณโรคในซากมัมมี่จากยุคศวรรษที่ 18 นี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communication ไปเมื่อเร็วๆ นี้