คุณ Ron Montelara ผู้อำนวยการ co-director ศูนย์เพื่อการวิจัยวัคซีน มหาวิทยาลัย Pittsburg กล่าวว่ายาปฏิชีวนะเทียมตัวใหม่ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่นี้ทำงานแตกต่างจากยาปฏิชีวนะดั้งเดิม
เขากล่าวว่ายาปฏิชีวนะทั่วไปจะฆ่าเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียด้วยการบล็อคกระบวนการเผาผลาญอาหารของเชื้อโรคแต่ยาปฏิชีวนะเทียมตัวใหม่ที่คิดค้นขึ้นมาจะทำลายเชื้อแบคทีเรียทางกายโดยตรงด้วยการเจาะรูเข้าไปภายในเซลล์ของเชื้อโรคแทน
ปัจจุบัน วงการแพทย์มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องคิดค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของวัณโรคและโรคปอดบวม
รายงานการศึกษาที่สนับสนุนโดยรัฐบาลอังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ว่าแบคทีเรียดื้อยาอาจทำให้คนเสียชีวิตถึงปีละ 10 ล้านคน และทำให้รัฐบาลในประเทศต่างๆ เสียค่าใช้จ่ายปีละหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ
รายงานชิ้นนี้ชี้ว่าการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นเป็นสาเหตุให้เชื้อโรคดื้อยาเพิ่มขึ้น มาการใช้ยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปีคริสตศักราช 2000 ถึง2010
องค์การอนามัยโลกรายงานว่ามีคนป่วยด้วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน หรือ MDR-TB ถึง 450,000 คนในปีคริสตศักราช 2012 เพียงปีเดียว
ยาปฏิชีวนะเทียมที่คิดค้นโดยทีมวิจัยที่นำโดยคุณ Ron Montelara แห่งมหาวิทยาลัย Pittsburg ลอกเลียนแบบจากส่วนหางของเชื้อไวรัสเอชไอวีที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ที่เจาะรูเข้าไปเซลล์ภูมิต้านทางในร่างกายคน
เขากล่าวว่านั่นทำให้ยาปฏิชีวนะเทียมที่คิดค้นขึ้นนี้ทำลายเชื้อแบคทีเรียในลักษณะเดียวกับที่เชื้อเอชไอวีเข้าไปทำลายเซลล์ภูมิต้านทานร่างกายของคน
ในขณะที่ยาปฏิชีวนะดั้งเดิมสองชนิดมีผลให้เชื้อแบคทีเรียทำงานช้าลงหรือทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำการทดสอบอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ ยาปฏิชีวนะเทียมตัวใหม่มีผลในการกำจัดเชื้อโรคอย่างน้อย 90 เปอร์เซ็นต์
คุณ Montelaro กล่าวว่าการทดสอบยาปฏิชีวนะส่วนหนึ่งเป็นการทดสอบในหนูทดลองที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือด
เขากล่าวว่าหนูทดลองได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ร้ายแรงและอาจะเสียชีวิตได้ใน 24 ชั่วโมง เมื่อทีมนักวิจัยให้ยาปฏิชีวนะเทียมแก่หนูทดลอง ปรากฏว่าหนูทดลองรอดชีวิตและยังสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียจากร่างกายหนูได้ทั้งหมดด้วย
คุณ Ron Montelara หัวหน้าทีมวิจัยอเมริกัน หวังว่าจะสามารถทำการทดลองทางคลีนิคในคนได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าโดยจำเป็นต้องเสาะหาบริษัทยาที่สนใจยาปฏิชีวนะเทียมที่คิดค้นขึ้นมานี้เสียก่อน