หลังจากทดลองจับคู่ป่วนชวนขำ ฮ็อบส์ กับ ชอว์ ในจักรวาลหนังรถซิ่งทะลุนรกภาคก่อน The Fate of the Furious จนประสบความสำเร็จแบบเล็กๆ นำไปสู่ภาพยนตร์ภาคแยกให้แฟนๆหายคิดถึงอย่าง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงคัดค้านจากแฟนหนังมากพอดู
Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw เล่าถึงภารกิจใหม่ของ Luke Hobbs (รับบทโดย เดอะร็อค Dwayne Johnson) และ Deckard Shaw (รับบทโดย Jason Statham) ที่ไม่กินเส้นกันมาตลอด ต้องมาร่วมมือกันช่วยเหลือ Hattie Shaw สายลับ MI6 น้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของ Deckard Shaw ซึ่งถูกซ้อนแผนการจารกรรมไวรัสมรณะแล้วต้องพลั้งฉีดไวรัสร้ายนี้เข้าไปในตัวเอง ทำให้ Hattie กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของ Brixton (รับบทโดย Idris Elba) คู่ปรับเก่าที่ Deckard Shaw สังหารไป แต่กลับถูกคืนชีพจนกลายเป็นนักรบดัดแปลงพันธุกรรมจอมโหด
พูดกับแค่พล็อตเรื่องก็ยังหาความรถซิ่งไม่เจอ และดูเหมือนกับพล็อตหนังสายลับจารกรรมเสียแทน ภาระหนักจึงไปตกที่เนื้อหาสาระ ฉากแอคชั่นมันส์ระห่ำ และเคมีของนักแสดงแทน
เริ่มกันที่เส้นเรื่องที่ตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด ไม่มีอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย ม้วนเดียวจบตามฉบับหนังของเดอะร็อค ที่ต้องมีฮีโร่ที่เก่งแบบหาคำบรรยายไม่ถูก เพราะไม่มีที่มาที่ไปอะไรเลย มีกลิ่นอายของความเป็นครอบครัวและฉากรถซิ่งวับๆแวบๆ เหมือนให้ทำตามจุดประสงค์ของเรื่องไปหน่อยแค่นั้น แต่ถ้าตัดไปก็ไม่ได้ทำลายสาระสำคัญของหนังเลยแม้แต่น้อย
ข้ามมาที่เคมีนักแสดงกันบ้าง ตัวเดอะร็อคและ Jason Statham นั้นเป็นสายคอมาดี้ตลกคนละแนวอยู่แล้ว ถ้าใครได้ดู Jason Statham ในเรื่อง Spy ที่แค่ทำตลกหน้าตาย โวยวายสำเนียงแดนผู้ดีก็ขำจะแย่ มาเรื่องนี้ก็ถือว่าเอาอยู่ในลุคของสายลับจอมเจ้าชู้ และบทพี่ชายที่หวงน้องสาวได้ตลกดี
อีกแม่เหล็กดึงดูดเห็นจะเป็น Vanessa Kirby ในบทสายลับ MI6 สุดแซ่บและน้องสาวจอมป่วนของ Deckard Shaw ซึ่งโผล่มาแต่ละซีนจะสวยสะกดและคิวบู๊เท่ห์ระห่ำไม่แพ้หนุ่มๆในเรื่อง ส่วนที่ขโมยซีนได้ของจริงเห็นจะเป็นแขกเซอร์ไพรส์ในภาพยนตร์ ที่รับประกันว่าจะต้องอ้าปากค้าง เพราะทั้งอึ้งทั้งขำได้
ส่วนคิวบู๊แอคชั่น นับว่าเป็นการปลดปล่อยจินตนาการของเหล่าผู้กำกับและทัพนักแสดงก็ว่าได้ โดยคิวบู๊สวยๆนั้นยกความดีให้กับ David Leitch เจ้าของเดียวกับ John Wick, Atomic Blonde และอีกมากมาย
สรุปรวมแล้ว Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw กลายเป็นหนังสายลับแบบงงๆ ที่อาจทำให้ผู้ที่คาดหวังความเร็วแรงทะลุนรกแบบฉบับของ Fast & Furious บ่นอุบพอสมควร แต่ถ้าชอบความสนุกแนวระเบิดภูเขาเผากระท่อม ต่อยกันฟันปลอมหลุดประมาณนี้ก็พอบรรเทาได้
(บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)