ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและมัลดีฟส์ลามไปถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อบริษัทเเพลตฟอร์มเพื่อการท่องเที่ยวรายใหญ่ของแดนภารตะ EaseMyTrip ระงับการจองเที่ยวบินไปมัลดีฟส์ ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้อำนวยการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง EaseMyTrip ปราชานต์ พิตติ กล่าวว่านโยบายนี้ของบริษัทจะมีผลต่อเนื่องไป "อย่างไม่มีกำหนด"
"เราดำเนินการเช่นนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ประเทศที่เคารพตัวเองควรจะทำ" พิตติ กล่าวกับรอยเตอร์
ตามปกติอินเดียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับมัลดีฟส์ซึ่งรายได้เงินตราต่างประเทศอันดับหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว
แต่มิตรภาพเปลี่ยนแปลงไปเมื่อประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มูอิสซู ขึ้นสู่อำนาจการบริหารประเทศหมู่เกาะเเห่งนี้
เขาเลือกที่จะเดินทางไปจีนเป็นที่เเรกอย่างเป็นทางการในฐานะผู้นำมัลดีฟส์ ทั้ง ๆ ที่ผู้นำส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้จะให้ความสำคัญต่ออินเดียก่อน
โดยมูอิสซูมีกำหนดเดินทางไปประเทศจีนวันที่ 8-12 ม.ค. ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งกำลังแข่งขันเชิงอิทธิพลกับอินเดีย ในเรื่องความสัมพันธ์กับมัลดีฟส์
ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยสามคนในรัฐบาลมัลดีฟส์ใช้ถ้อยคำรุนเเรงเรียกนายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดี บนโซเชียลมีเดีย X เช่นคำว่า "ตัวตลก" และ "ผู้ก่อการร้าย" สืบเนื่องจากที่โมดีเดินหน้าเเคมเปญสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศบริเวณหมู่เกาะ 'ลักษทวีป' ของอินเดียที่อยู่ทางเหนือของมัลดีฟส์
ในเวลาต่อมา รัฐมนตรีช่วยทั้งสามคนของมัลดีฟส์ถูกสั่งพักงาน
และเมื่อตอนที่ มูอิสซู หาเสียงเป็นผู้นำมัลดีฟส์เขาเรียกคะเเนนจากประชาชนของตนด้วยคำขวัญ "India Out" ซึ่งสื่อถึงการลดการพึ่งพาอินเดีย
พิตติ แห่ง EaseMyTrip กล่าวว่า บริษัทของเขาจะสนับสนุนการท่องเที่ยวลักษทวีป เหนือการเดินทางไปต่างประเทศ
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางไปมัลดีฟส์ ที่จำนวน 290,000 คน เมื่อปีที่เเล้ว ถือว่าเป็นที่หนึ่งคู่กับรัสเซีย และคิดเป็นสัดส่วนสำคัญต่อเป้านักท่องเที่ยวของประเทศหมู่เกาะเเห่งนี้ที่หวังว่าได้มีคนเดินทางมาเยือน 2 ล้านคนในปีนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น