เกาหลีเหนือเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ชมความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธ 2 รูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นสามารถติด “หัวรบขนาดใหญ่พิเศษ” และอีกรุ่นที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้
การทดสอบขีปนาวุธทั้งสองนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่ประเทศเพื่อนบ้านรายงานการยิงขีปนาวุธหลายลูกของเกาหลีเหนือเมื่อวันพุธ และเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้นำโสมแดงสั่งการให้กองทัพเสริมศักยภาพด้านการทหารนี้เพื่อขจัดภัยคุกคามที่สหรัฐฯ เป็นแกนนำ
สื่อทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานว่า ผู้นำคิมร่วมชมการยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ ฮวาซองโป-11-ดา-4.5 ซึ่งเป็นขีปนาวุธวิถีโค้งที่ติดหัวรบจำลองขนาด 4.5 ตันได้ และรายงานว่าการทดสอบขีปนาวุธมีขึ้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพของอาวุธที่มีความแม่นยำในการโจมตีเป้าหมายในระยะ 320 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอาวุธที่มีเป้าหมายสำหรับการโจมตีเกาหลีใต้
สื่อรัฐบาลเปียงยางแห่งนี้ยังรายงานด้วยว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยังได้แนะนำการปรับปรุงขีปนาวุธร่อนเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นการกล่าวถึงการพัฒนาขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้อีกด้วย และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ “เสริมทัพนิวเคลียร์” พร้อมเสริมว่าผู้นำคิมชี้ว่าเกาหลีเหนือสามารถขัดขวางความตั้งใจในการบุกรุกของศัตรูได้ก็ต่อเมื่อมีกำลังด้านการทหารที่แข็งแกร่ง
ยิ่งไปกว่านั้น สื่อแห่งนี้ยังเผยแพร่ภาพของขีปนาวุธที่โจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน ซึ่งฝั่งกองทัพเกาหลีใต้ รายงานในวันพฤหัสบดีด้วยว่าเป็นขีปนาวุธวิถีโค้งและขีปนาวุธร่อนที่ยิงมาจากฝั่งโสมแดง และตกลงบริเวณพื้นที่ภูเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือเลือกทดสอบขีปนาวุธบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นพิกัดที่เสี่ยงที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งหากการทดสอบผิดพลาด
ในเรื่องนี้ จัง ชาง วุค หัวหน้าสถาบันคลังสมอง Korea Defense Study Forum ในกรุงโซล ให้ทัศนะกับเอพีว่า เกาหลีเหนืออาจมีเป้าหมายที่จะแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในความแม่นยำของขีปนาวุธวิถีโค้งของตน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้เป็นครั้งแรก และว่าเป็นการทดสอบที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน แต่กองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ โดยระบุว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งจากทั้งหมด 2 ลูกเดินทางผิดปกติในช่วงเริ่มต้นการทดสอบ และตกลงบริเวณที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ใกล้กับกรุงเปียงยางเมืองหลวง อีกทั้งเกาหลีเหนือเองไม่ได้เผยแพร่ภาพการทดสอบดังกล่าวด้วย
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือพยายามผลักดันการทดสอบอาวุธที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ที่ออกแบบมาเพื่อโจมตีทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพื่อรับมือในสิ่งที่เกาหลีเหนือระบุว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ยกระดับขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ต่างมองว่าเกาหลีเหนือต้องการใช้หัวรบขนาดใหญ่เพื่อเป็นข้อต่อรองในการเจรจากับสหรัฐฯ ในอนาคต
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น