กองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพรอบใหม่ในกาซ่าซิตี้

กองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพให้กับประชาชนในเมืองกาซ่าซิตี้ในวันพุธ โดยระบุให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายไปยังพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้เขตปกครองนี้ซึ่งเป็นจุดที่รายงานข่าวชี้ว่า มีเหตุการณ์เสียชีวิตของผู้คนหลายสิบคนในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนหน้า

คำสั่งอพยพรอบใหม่นี้ออกมาในรูปของใบปลิวที่ถูกโปรยมาจากบนฟ้า และมีเนื้อความที่ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวจะ “เป็นโซนต่อสู้ที่มีอันตรายต่อไป” และยังให้ข้อมูล “เส้นทางปลอดภัย” 2 เส้นที่ประชาชนสามารถเลือกใช้ในการอพยพด้วย

การสั่งอพยพครั้งล่าสุดนี้มีออกมา ขณะที่ กองทัพอิสราเอลเดินหน้าโจมตีเชิงรุกเข้าใส่พื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซ่าในวันพุธ หลังเพิ่งทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นที่หลบภัยสำหรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์

กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) โจมตีทางอากาศเข้าใส่เมืองนูเซย์รัตและเมืองคานยูนิสด้วย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ตามรายงานของสื่อหลายแห่ง

สื่อเอพีกล่าวว่า มีผู้ถูกสังหาร 8 รายในการโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอลเข้าใส่บ้านหลังหนึ่งในเขตเดอีร์ อัล-บาลาห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใน “เขตปลอดภัยด้านมนุษยธรรม” ที่อิสราเอลแจ้งชาวปาเลสไตน์ว่า ให้เข้าไปหลบภัยได้

เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่า กองทัพกำลังตรวจสอบรายงานที่อ้างว่า มีพลเรือนชาวปาเลสไตน์ได้รับอันตรายจากการโจมตีทางอากาศอยู่

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ กระทรวงสาธารณสุขกาซ่ารายงานว่า การโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16คนที่ในโรงเรียน อัล-จาวานี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของยูเอ็น ในเมืองนูเซย์รัต ในพื้นที่ตอนกลางของกาซ่า และมีผู้หลบภัยอยู่ราว 2,000 คน

ต่อมาในวันอาทิตย์ มีการโจมตีใส่โรงเรียนอีกแห่งทางเหนือของกาซ่าและทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน ก่อนจะมีการโจมตีทางอากาศในวันจันทร์เข้าใส่โรงเรียนที่ยูเอ็นเปลี่ยนเป็นศูนย์พยาบาลในนูเซย์รัต

กลุ่มฮามาสออกมาเตือนเมื่อวันอังคารว่า การเดินหน้าถล่มโจมตีอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ความพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเสียกระบวนไปได้ ขณะที่ สำนักงานสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นแสดงความกังวลเกี่ยวกับปฏิบัติการของอิสราเอลซึ่งรวมถึงคำสั่งอพยพประชาชนครั้งล่าสุดด้วย

ยูเอ็นกังวลภาวะอดอยากรุนแรงในกาซ่า

คณะผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นในนครเจนีวา ระบุในแถลงการณ์ที่ออกมาในวันอังคารว่า ภาวะทุพภิกขภัยกำลังแผ่ขยายไปทั่วฉนวนกาซ่า โดยยกตัวอย่างการเสียชีวิตเมื่อเร็ว ๆ นี้ของเด็กวัย 6 เดือน, 9 ขวบและ 13 ขวบ

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญนี้กล่าวว่า “เด็กทั้ง 3 คนเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการและการที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพที่เพียงพอ” และว่า “การเสียชีวิตของเด็ก ๆ เหล่านี้จากภาวะอดอยาก แม้จะมีการให้บริการด้านการแพทย์ในพื้นที่ตอนกลางของกาซ่าอยู่ (แสดงให้เห็น) โดยไม่ต้องสงสัยว่า ภาวะทุพภิกขภัยได้ขยายจากทางเหนือของกาซ่าไปยังภาคกลางและภาคใต้ของกาซ่าแล้ว”

ทีมงานนี้เรียกร้อง “ประชาคมโลกจัดลำดับให้ความสำคัญต่อการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทางบก ให้ได้มากที่สุด ยุติการยึดครองโดยอิสราเอล และจัดตั้งภาวะหยุดยิงขึ้น”

การเจรจาหยุดยิง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยข่าวกรองจากอียิปต์ อิสราเอลและสหรัฐฯ ร่วมหารือประเด็นข้อตกลงหยุดยิงที่กาตาร์ในวันพุธ โดย บิล เบิร์น ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ มีกำหนดพบกับ อับบาส คามาเอล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอียิปต์และ เดวิด บาร์เนีย หัวหน้าหน่วยสายลับอิสราเอลด้วย

ทั้งเบิร์น และผู้เเทนพิเศษสหรัฐฯ ด้านตะวันออกกลาง เบรตต์ เเม็คเกิร์ค เข้าร่วมหารือที่กรุงไคโรกับตัวแทนจากอียิปต์ อิสราเอลและจอร์แดนตั้งแต่เมื่อวันจันทร์แล้ว ตามการเปิดเผยของ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว

ความขัดแย้งครั้งนี้ปะทุขึ้น หลังฮามาสโจมตีเข้าใส่อิสราเอลที่ไม่ทันตั้งตัวเมื่อ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีผู้ถูกจับไปเป็นตัวประกันกว่า 250 คน ตามข้อมูลของทางการอิสราเอล

การโจมตีโต้กลับของกองทัพเทลอาวีฟเข้าใส่ฉนวนกาซ่าตั้งแต่นั้นก็ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 38,243 คนเสียชีวิตด้วย ตามรายงานของกระทรวงสาธารณะสุขกาซ่าที่บริหารงานโดยกลุ่มฮามาส

• ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์