อัยการฮ่องกงยื่นเรื่องฟ้อง จิมมี ไล ผู้ก่อตั้งสื่อ Hong Kong Apple Daily พร้อมพนักงาน ในข้อหา “จัดทำสิ่งพิมพ์เพื่อปลุกระดม” เพิ่มเติมจากข้อหาอื่นๆ ที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้ภายใต้อำนาจของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งบังคับใช้ ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
จิมมี ไล ในวัย 74 ปี และอดีตพนักงานของ Hong Kong Apple Daily อีก 6 คน ปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษาในวันอังคาร เพื่อรับฟังข้อหาใหม่นี้ หลังจากที่เจ้าพ่อสื่อใหญ่ของฮ่องกงรายนี้ถูกฟ้องไปก่อนหน้านี้ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติไปแล้ว
ทั้งนี้ Hong Kong Apple Daily ซึ่งเป็นสื่อแนวส่งเสริมประชาธิปไตยปิดตัวลงไปเมื่อเดือนมิถุนายน หลังถูกทางการฮ่องกงบุกค้น และจับกุมพนักงานทั้งหลายในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง พร้อมสั่งยึดทรัพย์ทั้งหมดไป
ในส่วนของรายละเอียดของข้อหาใหม่นี้ อัยการกล่าวหา ไล ว่า ทำการสมรู้ร่วมคิดในการจัดพิมพ์ จำหน่าย และแจกจ่าย “สิ่งพิมพ์ที่มีจุดประสงค์ปลุกระดม” ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2019 และวันที่ 24 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2021
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลเอกสารสั่งฟ้องว่า อัยการยังกล่าวหาด้วยว่า สิ่งพิมพ์ที่ว่านี้อาจนำมาซึ่ง “ความเกลียดชังหรือการสบประมาท หรือปลุกเร้าความไม่พอใจ” ต่อฮ่องกงและรัฐบาลจีน
จิมมี ไล คือ หนึ่งในกลุ่มคนผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในฮ่องกงที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงที่ร่างโดยรัฐบาลกรุงปักกิ่งและถูกบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนของปีที่แล้ว ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะลงโทษการก่อการร้าย การสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ การโค่นล้มและการแบ่งแยกดินแดน ด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิต
การที่ทางการฮ่องกงจับกุมและเดินหน้าฟ้อง ไล หลายต่อหลายข้อหา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลตะวันตกและกลุ่มสิทธิมนุษยชนสากลหลายแห่ง ที่มองว่า การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของจีนนั้นมีจุดประสงค์ที่จะคุมขังผู้สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จัดการกับผู้คัดค้านและเห็นต่าง และจำกัดเสรีภาพทั้งหลาย ซึ่งรวมถึง เสรีภาพสื่อ ด้วย
อย่างไรก็ดี ทางการฮ่องกงและรัฐบาลจีนอ้างว่า กฎหมายดังกล่าวช่วยฟื้นฟูความมีเสถียรภาพของฮ่องกง หลังเกิดการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยยืดยาวมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2019