การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้มข้นขึ้นทุกทีเมื่อมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน
ผู้สมัครทั้งสองคน คือ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างมุ่งเน้นหาเสียงในรัฐที่เป็นรัฐสมรภูมิ หรือ battleground states ทั้ง 7 รัฐ ได้แก่ รัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน จอร์เจีย แอริโซนา เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา
จนถึงขณะนี้ มีประชาชนอเมริกันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วกว่า 14 ล้านคน อ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา (University of Florida) หลังจากที่เกือบทุกรัฐในอเมริกาได้เริ่มเปิดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งทางไปรษณีย์แล้ว
ขณะที่ผลการสำรวจความเห็นหลายสำนักต่างชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสูสีคู่คี่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี
ในวันอาทิตย์ รองปธน.แฮร์ริส ฉลองวันเกิดครบรอบ 60 ปีของเธอด้วยการกล่าวปราศรัยที่โบสถ์ New Birth Missionary Baptist Church ที่เมืองสโตนเครสต์ รัฐจอร์เจีย ห่างจากนครแอตแลนตาไปราว 50 กม.
จากนั้นรองปธน.สหรัฐฯ เดินทางต่อไปยังโบสถ์อีกแห่งหนึ่งที่เมืองโจนส์โบโร ไม่ไกลจากแอตแลนตา เพื่อรณรงค์ให้สมาชิกที่โบสถ์แห่งหนั้นออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ในวันเดียวกันนี้ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปเยี่ยมร้านฟาสต์ฟู้ด แมคโดนัลด์ส (McDonald’s) ในรัฐเพนซิลเวเนีย และสวมผ้ากันเปื้อนทำงานร่วมกับพนักงานที่ร้านแห่งนั้นเพื่อเสริฟมันฝรั่งทอดให้กับลูกค้า
ก่อนหน้านี้ แฮร์ริสบอกว่าเธอเคยทำงานที่ร้านแมคโดนัลด์ส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย แต่ทรัมป์บอกว่าเขาไม่เชื่อเธอ แม้ว่าเพื่อนเก่าของแฮร์ริสได้ยืนยันกับสื่อนิวยอร์กไทมส์แล้วว่า เธอเคยทำงานที่ร้านแมคโดนัลด์สจริง
ต่อมาในวันอาทิตย์ ทรัมป์ร่วมประชุมแบบทาวน์ฮอลล์กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเมืองแลงคาสเตอร์ รัฐเพนซิลเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิในการเลือกตั้งครั้งนี้
- ที่มา: วีโอเอ