ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เกาะติดหาเสียงรัฐเพนซิลเวเนีย – สมรภูมิสำคัญตัดสินปธน.สหรัฐฯ


รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส กล่าวปราศรัยหาเสียงที่เมืองเอียรี รัฐเพนซิลเวเนีย
รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส กล่าวปราศรัยหาเสียงที่เมืองเอียรี รัฐเพนซิลเวเนีย

วีโอเอ ภาคภาษาไทย รายงานบรรยากาศการหาเสียงของรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองเอียรี รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถือเป็นสมรภูมิสำคัญในการชิงชัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า ในช่วงเวลาเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปหาเสียงที่เมืองโอคส์ รัฐเดียวกัน

ความสำคัญของรัฐเพนซิลเวเนียในฐานะ swing state

รัฐเพนซิลเวเนีย คือหนึ่งในกลุ่มรัฐที่ถือว่าเป็น battleground states หรือ รัฐสมรภูมิ ที่มีทั้งหมด 7 รัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่ รัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน จอร์เจีย แอริโซนา เนวาดา และนอร์ธแคโรไลนา

รัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากจะเป็นรัฐสมรภูมิที่มีจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง หรือ electoral college มากที่สุด คือ 19 คน ยังถือเป็นรัฐที่คะแนนเสียงมีโอกาสเปลี่ยนเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่งมากที่สุด และยังได้รับความสนใจมากขึ้นหลังเกิดเหตุความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เมื่อเดือนกรกฎาคม

ในการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในอดีต ผู้สมัครที่ชนะในรัฐเพนซิลเวเนียสามารถชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศได้ถึง 10 ครั้งจาก 12 ครั้งหลังสุด รวมทั้งโอบาม่าในปี 2012 ทรัมป์เมื่อปี 2016 และไบเดนในปี 2020

นั่นคือสาเหตุที่ผู้สมัครทั้งสองคนต่างทุ่มเทเงินและเวลาไปที่รัฐนี้มากที่สุด โดยข้อมูลของสื่อซีบีเอสระบุว่า ผู้สมัครทั้งสองคนคือ รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เงินหาเสียงที่รัฐนี้รวมกันถึง 436 ล้านดอลลาร์จนถึงขณะนี้

เพนซิลเวเนีย ถือเป็นรัฐที่มีความหลากหลายอย่างมากด้านประชากรศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนักในอเมริกาและมีพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ ประชากรส่วนใหญ่คือคนอเมริกันผิวขาวซึ่งคิดเป็น 74% ของประชากรทั้งหมด และมีประชากรผิวดำ 12.3% และฮิสแปนิก 8.9% นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนประชากรสูงอายุในระดับสูง คือ 20% อ้างอิงข้อมูลจาก US News & World Report

ในทางการเมือง เมืองใหญ่อย่างเช่น นครฟิลาเดลเฟีย และนครพิตตส์เบิร์ก มักเอียงไปทางพรรคเดโมแครต แต่ในเขตนอกเมืองและชนบทมักเลือกพรรครีพับลิกัน ทำให้รัฐนี้กลายเป็นสมรภูมิสำคัญของสองพรรค โดยผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของนิวยอร์กไทมส์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ชี้ว่า แฮร์ริสนำทรัมป์ที่รัฐนี้ 49 – 48%

ความสำคัญของเขตปกครองเอียรีเคาน์ตี ในเชิงการเมือง

เขตปกครองเอียรีเคาน์ตี้ (Erie County) ตั้งอยู่ปลายสุดด้านตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเพนซิลเวเนีย มีพรมแดนติดกับทะเลสาบเอียรีและประเทศแคนาดา ลักษณะด้านประชากรศาสตร์คล้ายกับของรัฐเพนซิลเวเนีย คือมีคนผิวขาวราว 80% และคนผิวดำราว 7% โดยมีผู้ที่ลงทะเบียนสังกัดพรรคเดโมแครต 46% พรรครีพับลิกัน 39% จากประชากรทั้งหมดราว 300,000 คน

นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า เอียรีเคาน์ตี้คือ สมรภูมิสำคัญในรัฐสมรภูมิสำคัญ หมายความว่า ผู้สมัครที่ชนะที่เคาน์ตีนี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 16 ปีที่ผ่านมา จะชนะที่รัฐเพนวิลเวเนียด้วยและจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โจ มอร์ริส อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเมอร์ซีย์เฮิร์สต ในเมืองเอียรี ระบุในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ว่า “ตั้งแต่ปี 2008 รัฐเพนซิลเวเนียจัดการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นรวม 25 ครั้ง ในจำนวนนี้มี 23 ครั้งที่ผู้ชนะสามารถได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่เอียรีเคาน์ตีด้วย และเป็นพรรคเดแมครตที่ชนะถึง 20 ครั้ง ขณะที่พรรครีพับลิกันชนะไป 5 ครั้ง”

นักวิชาการผู้นี้ชี้ว่า มีไม่มีเขตการปกครองในอเมริกาที่จะมีส่วนสำคัญในการชี้วัดว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดี และเอียรีคือหนึ่งในนั้น

บรรยากาศการหาเสียงของรองปธน.แฮร์ริส

ในการหาเสียงของรองปธน.แฮร์ริส ที่ Erie Insurance Arena มีผู้เข้าร่วมราว ๆ 8,000 – 9,000 (เต็มความจุ) ถือเป็นการหาเสียงของแฮร์ริสในแถบตะวันตกของรัฐเพนซิลเวเนียที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด

การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด หลังจากที่มีเหตุความพยายามลอบสังหารอดีตปธน.ทรัมป์ ที่เมืองบัตเวอร์ ไม่ไกลจากเมืองเอีนรี เมื่อเดือนกรกฎาคม มีการนำโดรนมาบินตรวจตรา ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุแปลกปลอมและสุนัขดมกลิ่น มีตำรวจและเจ้าหน้าที่อารักขาของหน่วยงาน Secret Service ประจำทั่วบริเวณ และมีเจ้าหน้าที่แม่นบืนประจำบนหลังคาศูนย์จัดงาน

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการเปิดเพลงเหมือนงานปาร์ตี มีนักการเมืองของรัฐเพนวิลเวเนียเข้าร่วมกล่าวปราศรัยหลายคน รวมทั้งวุฒิสมาชิก จอห์น เฟธเธอร์แมน

ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงาน รวมทั้งประชาชนในเมืองเอียรี ทั้งที่เชียร์เดโมแครตและรีพับลิกันและให้สัมภาษณ์ไว้กับสื่อต่าง ๆ ต่างระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจคือประเด็นสำคัญที่สุด หลังจากที่การระบาดของโควิดทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้ซบเซาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโดยรวมของรัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้ผู้สมัครทั้งสองคนต้องพยายามชูนโยบายด้านเศรษฐกิจของตนในการหาเสียงในรัฐนี้

นอกจากนี้ ผู้สังกัดพรรคเดโมแครตยังกังวลถึงประเด็นสิทธิการทำแท้ง และการปกป้องประชาธิปไตยของชาติ ขณะที่ผู้นิยมพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่กังวลถึงปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองและปัญหาอาชญากรรม

  • ที่มา: วีโอเอ ภาคภาษาไทย

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG