อเมริกามีกฎหมายและบทลงโทษที่เข้มงวดเรื่องเมาแล้วขับหรือ Drunk Driving แต่ไม่มีกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับใดๆ ที่ห้ามการช้อปขณะที่มึนเมา หรือ Drunk Shopping
เว็บไซต์เรื่องการเงินส่วนบุคคล Finder เปิดเผยผลการสำรวจที่พบว่า มีคนอเมริกันราว 68 ล้านคนที่ช้อปออนไลน์ขณะที่มึนเมา หรือช้อปไปดื่มไป
โดยเมื่อปีที่แล้ว การซื้อของออนไลน์แบบที่เรียกว่า Drunk Shopping ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากแอลกอฮอล์นี้ มียอดขายรวมถึงกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือตกเฉลี่ยราว 447 ดอลลาร์ ต่อผู้ช้อปที่มึนเมาแต่ละคน
เว็บไซต์ Finder พบด้วยว่า สินค้าที่คนเมาแล้วชอบซื้อนั้นอันดับ 1 คืออาหาร ซึ่งมีสัดส่วนราว 61% อันดับ 2 คือรองเท้าและเสื้อผ้า ในสัดส่วนกว่า 25% ส่วนการพนันมาเป็นอันดับ 3 ที่เกือบ 25% และที่รองลงไป คือการเผลอตัวปล่อยใจซื้อบัตรคอนเสิร์ตราคาแพง หรือซื้อบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจทางเพศ เป็นต้น
ข่าวค่อนข้างร้ายสำหรับผู้ชาย ก็คือเพศชายมักจะใช้จ่ายมากกว่าผู้หญิงเกือบสองเท่าตัว เมื่อถึงเวลาเมาแล้วช้อบ แต่ถ้ามองในแง่สัดส่วนแล้ว ทั้งสองเพศมีโอกาสพอๆ กัน คือ 48% สำหรับผู้ชาย และ 41% ของฝ่ายหญิง มักจะชอบช้อปขณะที่เมามาย
ขณะที่คนอเมริกันที่แต่งงานแล้ว มีโอกาสใช้จ่ายมากกว่าในการซื้อของออนไลน์ภายใต้ภาวะมึนเมา เมื่อเทียบกับคนที่หย่าร้างถึงสองเท่าตัว และคนโสดจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะช้อบภายใต้อิทธิพลของสิ่งมึนเมาดังกล่าว คือถึง 56%
สำหรับในแง่ของวัย Generation X หรือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1965 ถึง 1980 ซึ่งมีอายุระหว่าง 38 ถึง 53 ปีในขณะนี้ดูจะเป็นกลุ่มที่ผู้ทำธุรกิจ E-commerce ชอบที่สุด เพราะกลุ่มคนอายุ 38 ถึง 53 ปีดังกล่าว มักช้อปออนไลน์ขณะที่มึนเมามากกว่ากลุ่ม Millennials ซึ่งมีอายุระหว่าง 22 – 37 ปี ถึงสามเท่าตัวด้วยกัน
