ปัจจุบัน อุตสาหกรรมผลิตและขายของปลอม แพร่ขยายไปสู่สินค้าหลายชนิดตั้งแต่ ของใช้อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าไปจนถึงยา และสารเคมีต่างๆ
สมาคมเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศหรือ INTA (International Trademark Association) และหอการค้าระหว่างประเทศ ประเมินว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจขอการค้าของปลอมทั่วโลกมีสูงถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ อีก 5 ปีจากนี้
ปัญหาดังกล่าวกระทบต่ออาชีพของผู้ที่ผลิตสินค้ามีลิขสิทธิ์ถูกต้อง 5,400,000 คน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ธุรกิจผลิตและจำหน่ายของปลอมได้กลายเป็นธุรกิจข้ามชาติ หน่วยงาน Global Financial Integrity ระบุว่า อุตสาหกรรมของปลอมเป็นธุรกิจผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่สุด และอาจจะมีมูลค่ามากกว่าการค้ายาเสพติดสองเท่า
ที่สำคัญ อันตรายของสินค้าปลอมอาจเป็นภัยถึงชีวิตได้ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์นมผงสำหรับทารกปลอมในเอเชียที่คร่าชีวิตเด็กมาแล้ว
หน่วยงานของสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม UNODC และองค์การศุลกากรโลก World Customs Organization ประเมินว่าร้อยละ 75 ของสินค้าปลอมทั่วโลกในปี ค.ศ. 2010 มีแหล่งการผลิตในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน
UNODC ระบุว่า จีนและอินเดียเป็นแหล่งผลิตยาปลอมรายใหญ่ที่สุดในโลก และจีนเป็นจุดส่งผลิตภัณฑ์ยาปลอมเกือบร้อยละ 60 ของสินค้าประเภทนี้ที่ถูกจับได้ทั่วโลก
ขณะนี้ทางการจีนกำลังเร่งปราบปรามสินค้าปลอมอย่างแข็งขัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าฐานการผลิตสินค้าปลอมได้แพร่ไปยังประเทศอื่นในเอเชียแล้ว อย่างเช่นในเกาหลีเหนือ เมียนม่าร์ และเวียดนาม
ในกัมพูชา ซึ่งเกิดปัญหาด้านสุขภาพจากยาปลอม เจ้าหน้าที่ได้ปิดร้านขายยาผิดกฎหมาย 60 แห่งไม่นานนี้ และยังมีมาตรการปราบปรามธนบัตรปลอมที่เป็นเงินดอลลาร์ด้วย
และที่เวียดนาม ท่ามกลางการหลั่งไหลของเครื่องสำอางปลอม กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามสั่งระงับการจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางกว่า 30 รายการ
(รายงานโดย Ron Corben / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)