ในงานจัดเเสดงสินค้าของสมาพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติในสหรัฐฯ (National Retail Federation) ที่จัดขึ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้ในมหานครนิวยอร์ค มีการนำตัวอย่างหุ่นยนต์หลายเเบบมาเเสดงเพื่อสาธิตการทำงาน
ภายในบู้ทแสดงสินค้าของบริษัทอินเทล (Intel) หุ่นยนต์ บอสซ่า โนวา (Bossa Nova) กำลังตรวจสินค้าบนชั้นวางสินค้าเพื่อระบุว่ามีสินค้าใดบ้างที่ถูกหยิบไปจากชั้นวาง และตรวจเช็คบัญชีสินค้า
ในขณะนี้ หุ่นยนต์ บอสซ่า โนวา (Bossa Nova) ถูกนำไปใช้งานในร้านของ Walmart 50 เเห่ง หุ่นยนต์ใช้กล้องถ่ายภาพเเบบสองมิติและสามมิติหลายตัวในการทำงาน พร้อมกับตัวเซ็นเซอร์หลายตัวในการระบุชนิดของสินค้าบนชั้นวางโดยใช้ระบบฉลากสินค้าที่ตรวจได้ด้วยคลื่นวิทยุเเละบาร์โคดที่มองไม่เห็น
การวิเคราะห์ที่ให้ผลทันที เป็นวิธีหนึ่งที่บรรดาผู้ขายปลีกใช้ตอบสนองกับการจับจ่ายของลูกค้าในปัจจุบัน
อเล็ค เจฟริดส์ (Alec Gefrides) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายปลีก บริษัทอินเทล กล่าวว่า รูปแบบของการค้าขายปลีกเริ่มปรับเปลี่ยนไป เพราะมีทั้งสั่งซื้อทางออนไลน์เเล้วไปรับของที่ร้านเเละอื่นๆ ทางร้านค้าจำเป็นต้องมีการทำบัญชีสต็อกสินค้าที่ถูกต้อง
เจฟริดส์ กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขายปลีกปรับสต็อกสินค้าได้ตามความต้องการซื้อของลูกค้า เเละรองรับความต้องการของลุกค้าได้ดีขึ้น พวกเขาสามารถบอกกับลูกค้าได้ทันทีว่า ลูกค้าสามารถเข้ามารับกางเกงยีนส์ที่เพิ่งสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ร้าน
แต่การเน้นประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ราบรื่นไร้ปัญหา ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจขายปลีก
แมทธิว เชย์ (Matthew Shay) ประธานเเละซีอีโอของสมาพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติในสหรัฐฯ กล่าวว่า ลูกค้าจะไม่คิดถึงช่องทางการซื้อสินค้า พวกเขาไม่คิดถึงความเเตกต่างระหว่าง อี-คอมเมิร์ช และการซื้อสินค้าทางออนไลน์ เเละผ่านทางมือถือหรือซื้อที่ร้าน เเต่ผู้บริโภคจะสนใจเเต่ว่า ตนเองต้องการซื้อสินค้าในตอนนี้หรือเมื่อไร? เเละต้องการซื้อที่ไหน?
เขาคิดว่านี่เป็นสาเหตุให้เกิดการปรับเปลี่ยนทางนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว เเละการลงทุนมหาศาลในอุตสาหกรรมขายปลีก
นวัตกรรมใหม่อย่างหนึ่ง คือ รถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์เเดช (Dash robotic shopping cart) ที่คิดค้นโดยบริษัทไฟว์ เอเลเมนท์ โรบอติกส์ (Five Elements Robotics) โดยรถเข็นมีแผนที่ดิจิทัลเเสดงพื้นที่ส่วนต่างๆ ของร้าน เเละสามารถเคลื่อนที่เองโดยอัตโนมัติ พาลูกค้าไปยังสินค้าที่ต้องการซื้อได้โดยตรง เเละยังพาลูกค้าไปยังรถยนต์ของลูกค้าที่จอดอยู่เพื่อนำของขึ้นรถ เเละจะเคลื่อนที่กลับไปที่ร้านเองโดยอัตโนมัติเพื่อไปจอดในที่เก็บหลังจากเสร็จภารกิจ
เวนดี้ โรเบิร์ต (Wendy Roberts) ซีอีโอของบริษัทไฟว์ เอเลเมนท์ โรบอติกส์ กล่าวว่า รถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์นี้ช่วยแก้ปัญหาเเก่ลูกค้า เพราะไม่ต้องเดินไปเดินมาเพื่อหาของที่ต้องการซื้อ โดยเชื่อว่า รถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์ Dash น่าจะใช้ประโยชน์ได้ดีในร้านขายสินค้าประเภทคลังสินค้า
โรเบิร์ต กล่าวด้วยว่า บรรดาร้านขายปลีกยังจะมีโอกาสทำการโฆษณาที่ตรงเป้ามากขึ้น เพราะรถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์นี้ มีหน้าจอที่สามารถเเสดงภาพโฆษณาสินค้าหรือโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้ดูขณะกำลังเดินตามรถเข็นเพื่อซื้อของ
ลูกค้ายังสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าได้ที่รถเข็นช้อปปิ้งโดยตรง ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเลียนเเบบจากระบบที่ลูกค้าบริการตัวเองในจุดจ่ายเงินด้วยตัวเองแบบไร้เเคชเชียร์ หรือ self-checkout ที่ใช้กันในซุปเปอร์มาร์เก็ตจำนวนมากทั่วสหรัฐฯ
โรเบิร์ต ซีอีโอของบริษัทไฟว์ เอเลเมนท์ โรบอติกส์ กล่าวว่า มีร้านค้าจำนวนมากขึ้นที่ปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบลูกค้าเช็คเอาท์สินค้าเอง เเละรถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์นี้จะเป็นการบริการที่ลูกค้าเช็คเอาท์สินค้าเองเเบบเคลื่อนที่
รถเข็นช้อปปิ้งหุ่นยนต์นี้ มีราคาเริ่มต้นที่คันละ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับระดับของซอฟแวร์เเละการออกแบบฮาร์ดแวร์ตามความต้องการของลูกค้า
โรเบิร์ต กล่าวว่า ยังมีบริการให้เช่ารถเข็นหุ่นยนต์นี้ด้วย เเละค่าเช่าอยู่ที่เดือนละไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐฯ
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
