รัฐบาลอิตาลีเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ภายในสิ้นเดือน หลังสถานการณ์เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ขณะที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่า มีผู้รับวัคซีนโควิดหลายพันคน กลับมาติดเชื้อโคโรนาไวรัสอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี มาริโอ ดรากี แห่งอิตาลี ประกาศในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนเป็นต้นไป โดยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีการเปิดให้บริการภายนอกอาคาร เช่น ภัตตาคารร้านอาหาร เป็นลำดับต้นๆ ขณะที่ โรงเรียนทุกแห่งจะสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ด้วย
การประกาศแผนผ่อนคลายของอิตาลีมีออกมา ขณะที่องค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงทั่วโลก
ในระหว่างการแถลงข่าวในวันศุกร์ เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์พุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และกำลังขึ้นแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการระบาดเมื่อปีที่แล้ว โดยอัตราการติดเชื้อนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังการลดลดติดต่อกันถึง 6 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน CDC รายงานว่า ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 78.5 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว ขณะที่ประชากรกลุ่มดังกล่าวในสัดส่วน 48 เปอร์เซ็นต์ ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
ในส่วนของสัดส่วนการรับวัคซีนของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดนั้น ศูนย์ควบคุมโรคและป้องกันโรคสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประมาณ 64 เปอร์เซ็นต์ของประชากรกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนครบแล้ว
อย่างไรก็ดี CDC รายงานว่า มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วราว 5,800 คน กลับมาติดเชื้อโคโรนาไวรัส โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “วัคซีนที่มีการแจกจ่ายทั้งหมดอยู่นี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิผลในการป้องกันอาการป่วยขั้นรุนแรง การที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิต อย่างไรก็ดี เราคาดว่า จะมีกรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังสามารถติดเชื้อได้อีกเป็นจำนวนหลายพันคน แม้ว่าวัคซีนนั้นจะทำงานได้ผลตามคาดก็ตาม”