หน่วยงานข่าวกรองต่างประเทศของรัฐบาลกรุงปักกิ่งส่งเจ้าหน้าที่บุกค้นสำนักงานของ Capvision ธุรกิจที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำของประเทศ ทั้งที่อยู่ในเมืองหลวงและเมืองอื่น ๆ ตามแผนงานปราบปรามธุรกิจต่างประเทศที่มีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจที่มีความอ่อนไหว
ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจต่างประเทศที่ทำการในจีนถูกกดดันอย่างหนัก เนื่องจากนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ ขณะที่ รัฐบาลประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินหน้าคุมเข้มการทำธุรกิจในจีน ซึ่งขัดแย้งกับความพยายามที่จะพยายามดึงนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าประเทศ หลังยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไป
รายงานข่าวระบุว่า ในการบุกค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ตำรวจ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาด สอบปากคำเจ้าหน้าที่ของธุรกิจที่ปรึกษาแห่งนี้ โดยยังไม่มีการพูดถึงการจับกุมหรือการควบคุมตัวใด ๆ แม้การสอบสวนนี้พุ่งเป้าไปทั้งตัวบริษัทและ “บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ภายใต้[บริบทของ]กฎหมาย”
ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับประเด็นทางกฎหมายในการบุกคนครั้งนี้ และสื่อทางการจีนก็ไม่ได้รายงานเรื่องวันที่มีการบุกค้นสำนักงานต่าง ๆ ของ Capvision ซึ่งมีที่ทำการใหญ่ในนครนิวยอร์กและนครเซี่ยงไฮ้
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีน รายงานว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อทำให้ยุทธศาสตร์ควบคุมและปราบปรามจีนสัมฤทธิ์ผล ประเทศตะวันตกบางแห่งเร่งทำการขโมยข้อมูลข่าวกรองและข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางทหารเศรษฐกิจและการเงินของประเทศเรา” โดยมีการกล่าวอ้างด้วยว่า บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจในประเทศนั้น คือเครื่องมือในการขโมยความลับดังกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังกระทรวงต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีของ Capvision และบริษัทอื่น ๆ โฆษกหวัง เหวินปิน ตอบว่า ทางการจีนที่เกี่ยวกับงานด้านความมั่นคงของประเทศและ “แผนกอื่น ๆ ที่มีศักยภาพความสามารถ” เพิ่งดำเนินการ “ด้านการบังคับใช้กฎหมายแบบเปิดต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อง ตามอำนาจของกฎหมาย” เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง
ข้อมูลทางเว็บไซต์ของ Capvision ระบุว่า บริษัทแห่งนี้เป็น “แพลตฟอร์มชั้นนำด้านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่มีความเป็นเลิศในการชี้ตัวที่ปรึกษาที่เหมาะสมและมีข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง” พร้อมเปิดเผยว่า บริษัทนั้นให้บริการลูกค้าอยู่กว่า 2,000 ราย ด้วยทีมนักวิจัยกว่า 600 คนและมืออาชีพจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถึง 450,000 คนด้วย
เอริค เจิง ประธานหอการค้าอเมริกันในนครเซี่ยงไฮ้ ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งให้กับสื่อมวลชนว่า จีนต้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายต่อบริษัทต่าง ๆ เช่น Capvision ที่มีการสอบทานธุรกิจของตน (due diligence) เพื่อใช้ในการตัดสินใจด้านการลงทุนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทแห่งนี้ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการบุกค้นที่เกิดขึ้น แต่มีการโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ WeChat ในวันจันทร์ ว่า “ในฐานะอุตสาหกรรมจีนชั้นนำแห่งหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านการให้บริการข้อมูล Capvision มีความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยว[ที่จะเคารพ]ภาพรวมความมั่นคงแห่งชาติและจะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมให้พัฒนาไปอย่างมีระเบียบและสมบูรณ์แข็งแรง”
บริษัทนี้ไม่ใช่เป้าหมายการตรวจค้นแห่งแรกของรัฐบาลจีน เพราะก่อนหน้านี้ มีกรณีที่ตำรวจเข้าสอบปากคำพนักงานของบริษัทที่ปรึกษา Bain & Co ในนครเซี่ยงไฮ้ และมีการบุกค้นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบทานธุรกิจ Mintz Group ทั้งยังมีการควบคุมตัวพนักงานไว้ 5 คนด้วย
ก่อนหน้านั้น ตำรวจจีนควบคุมตัวพนักงานคนหนึ่งของบริษัทยาสัญชาติญี่ปุ่นในข้อหาเป็นสายลับ และรัฐบาลจีนประกาศทำการตรวจสอบด้านความมั่นคงต่อบริษัท Micron Inc ที่เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำไปแล้ว
- ที่มา: วีโอเอ